สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สนับสนุนเงินอุดหนุนวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวม 10,000,000 ล้านบาท นำไปสู่การตรวจสอบเส้นทางการรับเงินหนุนวัดว่าเข้าข่ายทุจริตเงินทอนวัดหรือไม่ หลังจากตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) มีข้อมูลว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ น.ส.ประนอม คงพิกุล รองผู้อำนวยการ พศ. เข้ามาติดต่อยืมเงินวัดจำนวน 2,700,000 บาท เพื่อนำไปให้กับวัดทางภาคใต้ ซึ่งตำรวจ ปปป.ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการยืมเงิน หรือการถอนเงินกลับไป
นายชัยรัตน์ ตระกูลรังสิต คณะทำงานวัดไร่ขิง โดยยืนยันว่าวัดเคยขอเงินอุดหนุนจาก พศ. 3,000,000 บาท เมื่อปี 2558 ซึ่ง พศ. อนุมัติให้ 2,000,000 บาท และได้รับเงินอุดหนุนสร้างอาคารปฏิบัติธรรม 8,500,000 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่ทราบว่ามีการทุจริตเงินทอนตั้งแต่ต้นทางหรือไม่ เพราะวัดไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะได้รับงบประมาณโอนเข้าบัญชีเท่าใด และขอให้ตำรวจตรวจสอบเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่ใช่เฉพาะวัด
"เงิน 2,700,000 บาทที่ให้ยืมไปไม่ใช่เงินทอนวัด แต่ น.ส.ประนอม เข้ามายืมเงินที่วัด อ้างจำเป็นต้องใช้เงิน มีกฐินตกค้างวัดภาคใต้และเป็นวันหยุดไม่สามารถเบิกเงินได้ วัดจึงให้ยืม เพราะ น.ส.ประนอมมีตำแหน่งหน้าที่การงานน่าเชื่อถือ และได้เงินคืนมาแล้ว" คณะทำงานวัดไร่ขิง กล่าว
ขณะที่พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ในฐานะที่เคยร้องเรียนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบกระบวนการทุจริตเงินอุดหนุนวัดตั้งแต่ปี 2555 เปิดเผยว่า มีรายชื่อวัดเข้าข่ายทุจริตไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นวัดพระอารามหลวง และต้องการให้รัฐบาลตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมทั้งทรัพย์สินของข้าราชการ พศ. ตั้งแต่ระดับซี 5-9 เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตครั้งใหม่ด้วย ระบุไม่ได้มีแค่กลุ่มของ น.ส.ประนอม
พระพุทธะอิสระ ยังเสนอให้ ตำรวจ ปปป. ตรวจสอบการทุจริตงบประมาณเผยแผ่ศาสนา พระนักธรรมทูตในต่างประเทศ ว่าได้รับงบประมาณจริงหรือไม่ และเงินช่วยเหลือน้ำท่วมปี 2554 เพราะวัดบางแห่งไม่ได้ถูกน้ำท่วมจนเสียหายหนัก แต่ได้รับเงินอุดหนุนจาก พศ.จำนวนมาก