วันนี้ (19 ก.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ อดีตประธานสงฆ์สำนักสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ จะถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับถึงประเทศไทย ในเวลาประมาณ 22.00 น. ด้วยเที่ยวบินสายการบินไทย ทีจี 677 หลังจากที่ไม่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา ทำให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และอัยการสามารถคุมตัวกลับไทยได้ทันที สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ คือเมื่อเดินทางถึงไทยแล้ว เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะคุมตัวอดีตพระเณรคำไปสอบปากคำที่ดีเอสไอทันที โดยได้เตรียมห้องควบคุมตัว ชั้น 6 ดีเอสไอ ใกล้กับห้องที่นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดิน จ.พังงา ผูกคอเสียชีวิต เมื่อปีที่แล้ว เป็นสถานที่ไว้ควบคุมตัวอดีตพระเณรคำ ผู้ต้องหาในคดีพรากผู้เยาว์ กระทำชำเราเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษ ดีเอสไอ เตรียมพร้อมรับตัวอดีตพระเณรคำมาสอบปากคำที่ดีเอสไอทันที โดยจะไม่มีการแถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งทางดีเอสไอได้ประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่สนามบิน และตำรวจท้องที่ เพื่อเตรียมความพร้อมในเส้นทางที่จะนำตัวอดีตพระเณรคำมาที่ดีเอสไอแล้ว
นอกจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่จะเป็นผู้สอบปากคำแล้ว อธิบดีดีเอสไอได้เชิญเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาร่วมสอบปากคำ และสอบถามเรื่องปาราชิกด้วย โดยจะแถลงข่าวในวันที่ 20 กรกฎาคม ก่อนนำตัวอดีตพระเณรคำไปขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรกในวันที่ 21 ก.ค.นี้ และจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี
มีรายงานว่า ทีมโฆษกอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างแถลงรายละเอียดการนำตัวอดีตพระเณรคำกลับประเทศที่อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ สำหรับการประสานงานกับทางการสหรัฐอเมริกา เพื่อขอส่งตัวอดีตพระเณรคำเป็นผู้ร้ายข้ามแดนนั้น มีความพยายามต่อเนื่องมาตลอด 4 ปี จุดเริ่มต้นในการร้องทุกข์กล่าวโทษอดีตพระเณรคำ เกิดขึ้นเมื่อนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ร้องต่อดีเอสไอให้รับสอบสวนคดีอดีตพระเณรคำ หรือพระวิรพล ฉัตติโก ณ ขณะนั้น เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีพฤติการณ์อวดอุตริ อภินิหาร เพื่อฉ้อโกงเงินบริจาค และมีสัมพันธ์กับหญิงสาว 8 คน รวมทั้งเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ก่อนจะมีการขยายผลและพบพฤติการณ์ฟอกเงิน รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์