นายธนวรรธน์ พลวิชัย ในฐานะคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ประเมินสถานการณ์ราคายางพารา ว่า ปัจจุบันถือว่าทรงตัวและไม่น่าจะปรับลงกว่านี้เชื่อว่าราคาจะปรับขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท เพราะคาดการณ์ว่าไตรมาส 4 ปีนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับสูงขึ้นจากปัจจุบันที่ 45-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล จากความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวมากขึ้น ทำให้ความต้องการยางพาราสูงขึ้นตามด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคายาง และมูลค่าการส่งออกยางพารา
นอกจากนี้ กยท.ยังออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ รวมถึงร่วมกับผู้ส่งออกยางพารารายใหญ่ 5 บริษัท จัดตั้ง บริษัท ร่วมทุนยางพาราไทย เพื่อรับซื้อยางพารา ในตลาดซื้อขายจริงจากตลาดกลางทั้ง 6 แห่งของ กยท.ที่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) แต่ยังไม่เปิดเผยว่ารับซื้อเท่าไหร และเชื่อว่าจะผลักดันและรักษาให้ราคายางอยู่ในระดับสูงขึ้น โดยจะเร่งเดินหน้าเชื่อมโยงกับตลาดเพื่อส่งออกยางเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มสัดส่วนใช้ยางพาราในประเทศจากปัจจุบันที่ 500,000 ตัน จากปริมาณทั้งหมด 4,500,000 ตัน จึงมั่นใจว่าราคายางพาราในประเทศจะปรับดีขึ้น