วันนี้(15 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่กรมการขนส่งทางบก และขสมก.ทดลองเดินรถ 8 เส้นทาง ตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 15 ส.ค. - 15 ก.ย. นี้ เพื่อประเมินผล สร้างความรับรู้สู่ประชาชน และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะโดยกำหนดพื้นที่เดินรถเป็น 4 โซน ได้แก่ สีเขียว (G) สีแดง (R) สีเหลือง (Y) และ สีน้ำเงิน (B)
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการเดินรถขสมก. อธิบายว่า รถที่นำมาทดลอง จะทดลองควบคู่กับรถสายเดิมที่ยังให้บริการ โดยเลือกเส้นทางที่ใกล้เคียงกับเส้นทางเดิม เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน เช่นสาย B44 หรือสาย 54 เดิมวิ่งเส้นทางวงกลมห้วยขวางโดยมีรถทั้งหมด 32 คัน แบ่งมาใช้ในการทดลองเดินรถจำนวน 5 คันโดยเส้นทางจากขยายจากวงกลมห้วยขวาง เป็นวงกลมรัชดาพระราม 9
ในการทดลองช่วงแรก อาจมีความขลุกขลักบ้าง แต่ได้เตรียมความพร้อมของทั้งพนักงานขับรถและพนัก งานเก็บค่าโดยสารไว้แล้ว ซึ่งขสมก.ได้เปิดทดลองเดินรถ 8 เส้นทางตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยทดลองตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น.
ทีมข่าวไทยพีบีเอส ได้ส่งทีมข่าว ทดลองการเดินรถในวันแรก โดยเลือกสาย 114 อู่นครอินทร์-แยกลำลูกกา ซึ่งเปลี่ยนเปลี่ยนเป็นสาย G21 รังสิต - ท่าเรือพระราม 5 ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยคุณพรรทิพา ภัทรวรเมธ ได้ทดลองใช้บริการในเส้นทางที่ให้บริการเดิม สานย 114 ส่วนคุณสิรีภัคกมณ ตรัยตรึงตรีคูณ ได้ทดลองรถที่เป็นสายใหม่ คือสาย G21 รังสิต-ท่าเรือพระราม 5
คุณพรรณทิภาได้ ทดสอบใช้บริการรถเมล์สาย 114 เส้น ทาง จากอู่นครอินทร์ ถึง แยก ลำลูกกา ตั้ง แต่เวลา 6.30 นาฬิกา ระหว่างทางพบว่าผู้โดยสาร บาง ส่วน ลังเลที่จะใช้บริการรถเมล์สายใหม่ จี21 ซึ่งจะใช้ทดแทนสาย 114 และเลือกที่จะใช้บริการรถเมล์สายเดิม
นายพรชัย สุริยลักษณ์ ผู้ใช้บริการรถเมล์สาย 114 บอกว่า ทราบข่าวการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ เมื่อเห็นรถเมล์สายใหม่คือ G21 วิ่งผ่านมา แต่ไม่กล้าขึ้น เพราะไม่แน่ใจเส้นทางที่ชัดเจนของรถสายใหม่
ด้านนันท์นิทัศน์ เพชรสงค์ ผู้ใช้บริการรถเมล์สาย 114 สอดคล้องกับนักศึกษาคนนี้ บอกว่า ข้อมูลรถ เมล์สายใหม่ ไม่ชัดเจน จึงขอเวลาปรับตัว และศึกษาเส้นทางใหม่ก่อน
ขณะที่คุณสิรีภัคกมณ ซึ่งได้ทดลองนั่งรถเมล์สายใหม่ คือ G21 ออกจากอู่นครอินทร์ - รังสิต โดยออกเดินรถในเวลาเดียวกัน มาตามเส้นทางเดินรถเดิมจนถึงแยกพงษ์เพชร และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวิดีรัง สิต ต่อเนื่องไปจนถึงอู่รังสิต ซึ่งไปถึงที่อู่รังสิตเวลา 9.00 น. ใช้เวลารวม 2 ชั่วโมงครึ่งพบว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่ ยังไม่กล้าใช้บริการ เพราะไม่รู้ว่าคือรถเมล์สายใหม่ และวิ่งไปเส้นทางไหน ทำให้บรรยากาศบนรถเมล์ค่อนข้างโล่ง
ขณะที่พนักงานเก็บค่าโดยสารต้องคอยตะโกนแจ้งให้ผู้โดยสารทราบเป็นระยะ เพื่อให้ผู้โดยสารกล้าใช้บริการ โดยผู้โดยสารบอกว่า อยากให้หน่วยงานประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น และรู้สึกว่าเส้นทางเดินรถที่ปรับเปลี่ยนแล้วทำให้การเดินรวดเร็วขึ้น จากปกติต้องไปอ้อมถนนพลโยธิน
และความไม่มั่นใจในการใช้บริการรถเมล์เส้นทางใหม่เกิดขึ้นบ้าง แต่ในระยะยาว กรมการขนส่งทางบกและขสมก.เชื่อว่าเส้นทางสายใหม่ที่ออกแบบให้สั้นลง และเข้าถึงรถไฟฟ้ามากขึ้นน่าจะทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกมากขึ้น