รอง ผบ.ตร.ลงกระบี่ ตรวจสำนวนฟ้องผู้ต้องหา“ฆ่ายกครัว 8 ศพ”

อาชญากรรม
23 ส.ค. 60
10:24
1,007
Logo Thai PBS
รอง ผบ.ตร.ลงกระบี่ ตรวจสำนวนฟ้องผู้ต้องหา“ฆ่ายกครัว 8 ศพ”
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมลงพื้นที่ จ.กระบี่ วันนี้ (23 ส.ค.) เพื่อตรวจสำนวนก่อนส่งให้อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา “ฆ่ายกครัว 8 ศพ” หลังรวบรวมสำนวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว

วันนี้ (23 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนเตรียมนำสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง นายซูริก์ฟัต บ้านนพวงศ์สกุล พร้อมพวกรวม 8 คน ก่อเหตุฆ่ายกครัว นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมพวกรวม 8 ศพ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังตำรวจใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานสิ่งแวดล้อม หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลกว่า 40 คน ในช่วงระยะ 1 เดือน

มีรายงานว่า วันนี้ เวลา 13.00 น. พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมานำสำนวนส่งพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ สั่งฟ้องศาลด้วยตัวเอง

การเสียชีวิตของครอบครัวผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ มีสาเหตุจากความขัดแย้งเรื่องการขายฝากที่ดิน ซึ่งนายซูริก์ฟัต นำที่ดินของครอบครัวนายวรยุทธที่ได้ขายฝากไว้ ไปจำนองต่อกับธนาคาร แต่เมื่อนายวรยุทธคืนเงินให้กลับไม่ได้รับที่ดินคืน เพราะนายซูริก์ฟัตขาดผ่อนชำระเงินจำนองที่ดินกับธนาคารจนจะถูกยึด และมีการข่มขู่เอาชีวิต กระทั่งนายซูริก์ฟัต พร้อมพวกก่อเหตุฆ่า 8 ศพ

ขณะที่วานนี้ (22 ส.ค.) อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดกระบี่ หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมผู้แทนจากธนาคารกรุงเทพ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเจ้าของที่ดิน 8 ราย ที่นำที่ดิน 12 แปลง ไปขายฝากกับนายซูริก์ฟัต และกำลังจะถูกธนาคารฟ้องร้องบังคับคดี ซึ่งรวมถึงนายนายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของนายวรยุทธ

เบื้องต้นจากการพูดคุย แนวทางแก้ปัญหาคือช่วยดำเนินการทางทางกฎหมายและการช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆ และจะต้องประชุมหารือกันอีกครั้ง โดยจะประสานไปยังธนาคารของรัฐ เช่นธนาคารออมสิน ธนาคาร ธกส. และเชิญผู้เชี่ยวชาญของธนาคารมาร่วมกันหาทางออกต่อไป โดยจะนัดประชุมหารืออีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้

ก่อนหน้านี้ นายจรีย์พ่อตานายวรยุทธได้ฟ้องร้องต่อศาลให้เพิกถอนสัญญาที่ทำกับนายซูริก์ฟัต เพราะเป็นการทำนิติกรรมอำพราง ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่ได้นัดสืบพยานแต่ทางทนายจำเลยขอเลื่อนออกไป โดยให้เหตุผลว่าได้รับข้อมูลจากจำเลยไม่มากพอ ขณะที่รายอื่นๆก็ประสบปัญหาเดียวกันแต่ก็ไม่มีเงินที่จะจ้างทนายไปฟ้องร้อง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง