ไทยประสาน"มาเลเซีย"อุดรั้วธรรมชาติค้าสัตว์-ของผิดกฎหมาย

สิ่งแวดล้อม
24 ส.ค. 60
12:45
1,062
Logo Thai PBS
ไทยประสาน"มาเลเซีย"อุดรั้วธรรมชาติค้าสัตว์-ของผิดกฎหมาย
ปฏิบัติการร่วมทหาร-ตร.-ไซเตสตั้งจุดสกัดทับโกบ จ.สงขลา ป้องกันค้าสัตว์ป่า และตรวจสอบ 11 จุดเสี่ยงแนวรั้วธรรมชาติ พบช่องทางคนเข้า-ออกรั้วลวดหนาม ขนของผิดกฎหมาย กรมอุทยาน ประสานมาเลเซีย ร่วมแก้ค้าลิ่น งาช้าง นอแรด และเสือโคร่ง

วันนี้( 24 ส.ค.2560) นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชร่วมสังเกตการณ์การปฎิบัติงานร่วม ของทหาร นำโดยพ.ต.จารุพันธุ์ มีเจริญ ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 5021 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ตั้งด่านจุดตรวจเฉพาะกิจทับโกบ บริ เวณที่ทำการตำรวจสายตรวจทับโกบ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดที่เคยจับกุมการลักลอบขนตัวลิ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปฏิบัติการครั้งนี้ มีทหาร 10 นาย ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าปาดังเบซาร์ (ไซเตส) ร่วมตรวจรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก รถมอเตอร์ไซต์ รถโดยสารสาธารณะสายหาดใหญ่ ปาดังเบซาร์ โดยการขอความร่วมมือตรวจสัมภาระบนรถ และเข้าตรวจบนโดยสารที่ใช้เส้นทางนี้ เนื่องจากอยูห่างจากด่านชายแดนไทย- มาเลเซีย ทางด้านปาดังเบซาร์เพียง 3 กิโลเมตร และมักเป็นเส้นทางลักลอบขนส่งสินค้าหนีภาษี และสัตว์ป่า ซึ่งปกติตำรวจจะมีการตั้งจุดตรวจทุกวัน

ส่วนจุดที่สอง พ.ต.จารุพันธุ์ พาทีมเจ้าหน้าที่ไซเตสเข้าดูแนวรั้วธรรมชาติไทย-มาเลเซีย โดยเป็น 1 ใน 11 จุดแนวรั้วธรรมชาติที่มีความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากมีการทำแนวรั้วลวดหนามแบบตาข่ายสูงประมาณ 3 เมตร และมีระยะห่าง 2 ชั้น แต่ละช่องห่างกัน พบร่องรอยรั้วลวดหนามถูกตัดออกเป็นช่องพอให้คนรอดข้ามไปมา และมีรองเท้าแตะขาด 1 ข้างถูกทิ้งไว้ บริเวณนี้เจ้าหน้าที่ทหารยอมรับว่ายังเป็นจุดบอดในการลาดตระเวน จึงมักถูกใช้เป็นเส้นทางลักลอบขนสินค้าออกมาได้ง่าย

ไทยลั่นล้อมคอกแก้ปัญหาค้าสัตว์ป่า 4 ชนิด

นายปิ่นสักก์ บอกว่า รัฐบาลพยายามสร้างความเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ ร่วมกับศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนร่วมระหว่างกรมอุทยาน ทหาร ตำรวจ ศุลกากรให้มีความเข้มงวด  แต่ยอมรับว่า แนวเขตแดนต้องสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน กรณีชายแดนไทย-มาเลเซียที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านค้าสัตว์ป่า ทั้งตัวลิ่น งาช้าง เสือ ส่วนแนวรั้วตามธรรมชาติที่เป็นเส้นทางลักลอบ เป็นผลมาจากการลาดตระเวนซึ่งหลังจากนี้คงจะมีการประสานขอความร่วมมือกับมาเลเซีย ในการช่วยสอดส่องพื้นที่จุดเสี่ยงเหล่านี้

รองอธิบดีกรมอุทยาน บอกว่า ส่วนการแก้ปัญหาลักลอบจับตัวลิ่นจากป่าประเทศมาเลเซีย ข้ามชายแดนไทยส่งไปขายที่จีน เวียดนามนั้น ในระดับรัฐใช้เวทีของไซเตส และองค์กรอนุรักษ์ร่วมกันการทำงานเชิงลึก เพื่ออุดช่องว่างของขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่า และอาศัยมาตรการของกลุ่มอาเซียนช่วยกันแก้การลักลอบค้าสัตว์ป่า 4 ชนิดคือ ตัวลิ่น งาช้าง นอแรด และเสือโคร่ง 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง