วันนี้ (31 ส.ค.2560) นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงเดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่
ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 15 ส.ค.2560 พบผู้ป่วยทั่วประเทศแล้ว 67,233 คน เสียชีวิต 10 คน ส่วนใหญ่พบผู้ป่วยในช่วงอายุ 15 - 24 ปี เบื้องต้นกรมสนับสนุนบริการสุขภาพประสานขอความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีกว่าล้านคนทั่วประเทศ ในฐานะผู้สื่อสารด้านสาธารณสุข และผู้นำด้านพฤติกรรมสุขภาพ ร่วมเป็นเครือข่ายดำเนินงานเชิงรุกในการเฝ้าระวัง ป้องกันการระบาด และถ่ายทอดความรู้แนวทางการป้องกันโรคแก่ประชาชนให้สามารถดูแลจัดการสุขภาพได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ลดการป่วยและการเสียชีวิต
นพ.วิศิษฎ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มอบหมายให้ อสม.ลงพื้นที่ชุมชนประเมินความเสี่ยง ค้นหา เฝ้าระวังให้ความรู้ คำแนะนำแก่ผู้นำสุขภาพประจำครอบครัวในการดูแลสุขภาพตนเองและสมาชิกในครอบครัว เพื่อให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ห่างไกลโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีภูมิต้านทานต่ำ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ในการปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติและขั้นตอนการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยอย่างถูกวิธีป้องกันการแพร่กระจายสู่ผู้อื่น เพื่อสร้างความปลอดภัยจากโรค ลดอัตราป่วยและเสียชีวิต ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมปลอดโรค
สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสและเป็นสาเหตุสำคัญของโรคทางระบบทางเดินหายใจ ที่มีตั้งแต่อาการเล็กน้อย คือ ไข้ มีน้ำมูกร่วม หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอาการมากจะลงไปถึงหลอดลม เกิดอาการปอดบวมและอาจติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน วิธีการป้องกันคือการรักษาสุขอนามัย การแยกตัวออกห่างจากผู้อื่นเมื่อเริ่มไม่สบาย และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด