ย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อน เกิดเหตุเครื่องบินพาณิชย์ 4 ลำ จากบอสตัน วอชิงตัน ดี.ซี. และนวร์ก ถูกสมาชิกกลุ่มอัลกออิดะห์ 19 คน จี้เครื่องบินมุ่งหน้าไปที่มหานครนิวยอร์ค โดยเครื่องบินลำแรก คือ เครื่องบินของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสาร 92 คน และสมาชิกอัลกออิดะห์ 5 คน พุ่งเข้าชนอาคารฝั่งเหนือ เวลา 08.46 น. จากนั้นเวลา 09.03 น. เครื่องบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสาร 65 คน และผู้ก่อการร้ายอีก 5 คน พุ่งชนอาคารฝั่งใต้ เวลา 09.43 น. เครื่องบินอเมริกัน แอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสาร 64 คน และผู้ก่อการร้าย 5 คน พุ่งชนอาคารเพนตาก้อน หรือกระทรวงกลาโหม ต่อมาเวลา 10.06 น. เครื่องบินลำที่ 4 ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ซึ่งมีผู้โดยสาร 44 คน และผู้ก่อการร้าย 4 คน ตกในทุ่งหญ้าที่เมืองแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย คาดว่า เป้าหมายที่แท้จริงน่าจะเป็นอาคารรัฐสภาและทำเนียบขาวที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แต่ผู้โดยสารบนเครื่องทราบข่าวการก่อเหตุร้ายจากโทรศัพท์มือถือ จึงร่วมกันต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย ทำให้เครื่องบินตกในทุ่งหญ้า ความสูญเสียจึงจำกัดอยู่แค่คนที่อยู่บนเครื่องบินเท่านั้น กลุ่มอัลกออิดะห์ อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในครั้งนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2,979 คน ทั้งที่อยู่บนเครื่องบินและคนที่อยู่ด้านล่าง ส่วนที่มหานครนิวยอร์คเพียงแห่งเดียว มีผู้เสียชีวิต 2,750 คน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุในครั้งนั้น ด้วยการให้เงินสนับสนุนและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มอัลกออิดะห์และเชื่อว่ารัฐบาลอังกฤษทราบเรื่อง แต่ไม่ยอมเปิดเผยความจริงให้โลกได้รับรู้
ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกร้องให้นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยเอกสารลับดังกล่าว แต่รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า เอกสารดังกล่าวเต็มไปด้วยข้อมูลส่วนตัวและด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้ก่อการร้ายที่จี้เครื่องบินมีทั้งหมด 19 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวซาอุดิอาระเบียถึง 15 คน แต่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นอกจากนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมตัวกันฟ้องร้องรัฐบาลซาอุดิอาระเบียภายใต้กฎหมายใหม่ที่มีชื่อว่า ความยุติธรรมเพื่อต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้ายที่เปิดทางให้ผู้รอดชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิต สามารถฟ้องร้องรัฐบาลต่างประเทศกับศาลในสหรัฐอเมริกาได้ สำหรับคดีนี้ฟ้องร้องที่ศาลแมนฮัตตัน ในมหานครนิวยอร์ค
ข้อกล่าวหารัฐบาลซาอุดิอาระเบีย คือ สนับสนุนการก่อการร้ายทั้งในรูปแบบของเงินและสนับสนุนการปฏิบัติงาน ได้แก่ การสนับสนุนค่ายฝึกอบรม สนับสนุนด้านการเงินให้อัลกออิดะห์ ออกหนังสือเดินทางให้ผู้ก่อเหตุจี้เครื่องบิน และสนับสนุนการก่อเหตุ สอดคล้องกับข้อมูลของหน่วยสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา (FBI) ที่ระบุว่า มีสมาชิกของกลุ่มอัลกออิดะห์ 2 คน เคยทำงานให้กับรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยคนหนึ่งทำงานให้กับรัฐบาลซาอุดิอาระเบียและประจำการอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และอีกคนทำงานให้กับกระทรวงความสัมพันธ์อิสลาม ซึ่งพบว่าทั้งคู่เคยซักซ้อมการก่อเหตุ ด้วยการพยายามหาทางเข้าไปในห้องนักบินหลายครั้ง
ทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บประมาณ 1,400 คน ระบุว่า คดีนี้มีหลักฐานเป็นเอกสารมากถึง 5,000 หน้า ที่ระบุถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ระหว่างกลุ่มอัลกออิดะห์และรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ซึ่งทางการซาอุดิอาระเบียพยายามหาทางให้ศาลยกฟ้องข้อกล่าวหาดังกล่าว และจะทราบผลในเดือนพฤศจิกายนนี้