ผู้ติดเชื้อ "เอชไอวี" รายใหม่ลดลงต่อเนื่อง

สังคม
21 ก.ย. 60
19:46
3,716
Logo Thai PBS
ผู้ติดเชื้อ "เอชไอวี" รายใหม่ลดลงต่อเนื่อง
สถิติของกรมควบคุมโรคพบผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่มีแนวโน้มลดลง โดยปีนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งประเทศประมาณ 6,000 คน ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์แนะควรรณรงค์ส่งเสริมและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

วันนี้ 21 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โรคเอดส์ของไทยในปัจจุบัน คาดว่าปี 2559 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ประมาณ 444,900 คน ในจำนวนนี้ได้รับการวินิจฉัยและรู้สถานะการติดเชื้อของตัวเองแล้ว 410,576 คน ในจำนวนนี้ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส 307,667 คน คิดเป็นร้อยละ 68.5 แม้ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงอย่างรวดเร็ว จาก 150,000 คนในปี 2535 ลดลงเหลือกว่า 6,000 คนในปี 2560 แต่มีการตั้่งเป้าว่าในปี 2573 จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลงเหลือ 1,000 คน

แม้ว่าในกลุ่มประชากรทั่วไปความชุกของการติดเชื้อจะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในกลุ่มประชากรหลัก ยังคงสูงและมีแนวโน้มไม่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีด มีความชุกการติดเชื้อร้อยละ 20.5, สาวประเภทสองร้อยละ 12.7 และกลุ่มพนักงานบริการชาย ร้อยละ 11.9, กลุ่มชายรักชาย ร้อยละ 9.2, กลุ่มพนักงานบริการหญิงที่ไม่มีหลักแหล่ง ร้อยละ 2.2 และกลุ่มพนักงานบริการหญิงที่มีหลักแหล่ง มีความชุกการติดเชื้อร้อยละ 1.9

 

ใช้ถุงยางอนามัยลดความเสี่ยงติดเชื้อ "เอชไอวี"


นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยว่า ผู้ซื้อบริการทางเพศใน จ.สมุทรสาคร ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติ ซึ่งควรรณรงค์ส่งเสริมและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเพราะเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด และยังเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐสนับสนุนการแจกถุงยางอนามัย ส่วนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงควรไปตรวจหาเชื้อเอชไอวี ซึ่งสามารถตรวจได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ที่หน่วยบริการทางการแพทย์

แม้ถุงยางอนามัยจะเป็นวิธีลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ดีที่สุด แต่การตัดงบประมาณแจกถุงยางอนามัยเหลือ 50 ล้านชิ้นต่อปีในปัจจุบัน ทำให้นายนิมิตร์มองว่าอาจกระทบต่อการป้องกันโรค ทั้งๆ ที่ควรแจกถุงยางอนามัย 200 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่ง นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่ามีงบประมาณเพียงพอในการแจกถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันและควบคุมโรค

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า แม้การค้าประเวณีจะผิดกฎหมาย แต่คนกลุ่มนี้ต้องเข้าถึงการรับบริการทางการแพทย์ ไม่ต่างจากบุคคนกลุ่มอื่น ผู้ติดเชื้อมีสิทธิในการรักษา ขณะเดียวกัน ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อบริการทางเพศ ต้องใช้ถุงยางอนามัย

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง