กรณี พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รับสารภาพว่าร่วมกับลูกน้องอีก 2 นาย พาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีความเห็นจากหลายฝ่ายว่านายตำรวจจะมีความผิดทางอาญาหรือไม่
วันนี้(25 ก.ย.2560) นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ แสดงความเห็นในฐานะนักกฎหมายว่า นายตำรวจที่พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนี ยังไม่มีความผิดทางอาญา โดยยกมาตรา 189 เนื่องจากขณะที่เกิดเหตุศาล ยังไม่มีหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่ถือเป็นการช่วยเหลือพาหลบหนี
นายอนันตชัย บอกว่า ในเมื่อศาลยังไม่ตัดสินพิพากษา การกระทำความผิดยังไม่เกิด ตามมาตรา 189 ฐานพาผู้ต้องหาซ่อนหลบหนีจึงจึงยังไม่เกิด แต่ถ้ามีการออกหมายจับแล้วจึง เข้าข่ายที่จะเป็นความผิดทางอาญา
ขณะที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กลับมีความ เห็นต่าง พร้อมยกคำพิพากษาศาลฎีกา ยืนยันตำรวจที่มีส่วนพาน.ส.ยิ่งลักษณ์ หนี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้อยู่แล้วว่าพาคนที่ศาล มีคำสั่งพาห้ามออกนอกประเทศ และที่กำลังจะพิพากษาออก และไปทางชองทำลับ อย่างไรก็ผิดอยู่แล้ว
ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ระบุไม่สามารถให้ความเห็นเรื่องนี้ได้ เพราะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ในทางความผิดแล้วสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือความผิดทางอาญา และความผิดทางวินัย
"ศรีวราห์"ยันไม่จัดฉากจับตำรวจพายิ่งลักษณ์หนี
ขณะที่หลายคนไม่เชื่อว่าตำรวจแค่ 3 นาย จะตัดสินใจพาอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ หลบหนีคดี มีกระแสข่าวว่ามาตลอดว่า น่าจะมีนายตำรวจระดับสูงอยู่เบื้องหลัง วันนี้กระแสแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มมีชื่อย่อออกมา คือ "ภ" หรืออาจจะเป็น "ค" และเป็นตำรวจระดับนายพล แต่ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ ก็อาจจะยังไม่มีข้อกล่าวหาทางอาญา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้เรียกผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง เชื่อมโยงไปถึงกรณีที่พันตำรวจ รับสารภาพว่าช่วยเหลืออดีตนายกฯ หลบหนี โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีการจัดฉาก แต่จากการสอบสวนและตรวจสอบข้อกฎหมาย ยังไม่พบว่าสามารถดำเนินตามกฎหมายตำรวจที่ช่วยเหลืออดีตนายกหลบหนีได้
เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ระบุตรงกันว่าขณะนี้ตำรวจที่ร่วมพาอดีตนายกฯ หลบหนียังไม่เข้าข่ายความผิด เพราะขณะนั้นยังไม่มีการออกหมายจับ พร้อมปฏิเสธที่จะระบุถึงอดีตนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลัง มีชื่อย่อขึ้นต้น "ภ" หรือ "ค" หรือไม่
ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 5 ที่มีการเปลี่ยนหัวหน้าชุดสอบสวน เป็น พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นัดประชุมในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) และบอกว่าจะสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน