"ฮิวจ์ เฮฟเนอร์" ผู้ก่อตั้ง Playboy เสียชีวิต

Logo Thai PBS
"ฮิวจ์ เฮฟเนอร์" ผู้ก่อตั้ง Playboy เสียชีวิต
ฉายาที่ใช้เรียกหนุ่มนักรักว่า Playboy ตามหนังสือดัง บ่งบอกถึงความโด่งดังของนิตยสารปลุกใจเสือป่าระดับตำนานได้อย่างดี แต่วันนี้ต้นตำรับเพลย์บอยอย่าง ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ ได้เสียชีวิตลงแล้ว โดยเขาใช้วาระสุดท้ายในบ้านพักที่เปรียบเสมือนฮาเร็มที่หนุ่มๆ ทั่วโลกใฝ่ฝัน

บรรยากาศที่เคยครึกครื้นไม่เว้นแต่ละคืนภายใน Playboy Mansion เปลี่ยนเป็นความเงียบเหงา เมื่อ ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ เจ้าของบ้านคนดัง ผู้สร้างธุรกิจพันล้านจากการให้กำเนิดนิตยสารปลุกใจเสือป่า Playboy เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา

ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ จบการศึกษาด้านจิตวิทยาและการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เคยทำงานเป็นนักข่าวในกองทัพสหรัฐฯ และเป็นพนักงานฝ่าย Copy writer ให้กับนิตยสาร Esquire หลังจากไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธการขึ้นค่าจ้างเพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐ เขาจึงออกมาเปิดตัวหนังสือของตนเองในปี 1953 โดยหยิบยืมเงินจำนวน 7,000 ดอลลาร์สหรัฐจากผู้ลงทุน 40 คน รวมถึงอีก 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากแม่ โดยนำเงิน 200 ดอลลาร์สหรัฐไปซื้อรูปนู้ดของ มาริลีน มอนโร ที่ถ่ายเอาไว้ตั้งแต่ 1949 มาขึ้นปก Playboy โดยฉบับปฐมฤกษ์ไม่ระบุวันเดือนปีในการตีพิมพ์ เพราะคิดว่าคงจะไม่ได้ทำต่อ แต่ปรากฏว่าหนังสือขายไปได้ถึง 54,000 เล่ม หรือร้อยละ 80 ของยอดตีพิมพ์

ความสำเร็จของ Playboy ที่เคยทำยอดขายได้ถึงเดือนละ 7 ล้านเล่ม สร้างโอกาสในวงการบันเทิงให้กับนางแบบมากมาย ทั้ง คิม บาซิงเกอร์, พาเมลา แอนเดอร์สัน และแอนนา นิโคล สมิธ และยังมีสาวคนดังไม่น้อยใช้การขึ้นปก Playboy เพื่อเสริมความดังทั้งเออร์ซูลา แอนเดรส, นาตาชา คินสกี้, ชารอน สโตน, ดรู แบร์รีมอร์ และลินด์ซีย์ โลแฮน

นอกจากขายความเซ็กซี่แล้ว นิตยสาร Playboy ยังได้รับการยกย่องเรื่องการนำเสนอบทสัมภาษณ์บุคคลสำคัญทั้ง มาร์ติน ลูเธอร์ คิง, ฟีเดล คาสโตร และจอห์น เลนนอน และยังมีบทความน่าสนใจจากนักเขียนดังๆ ทั้ง จอห์น สไตน์เบค, เรย์ แบรดบิวรี และเอียน เฟลมมิ่ง ซึ่งการใส่สาระลงใน Playboy ยังช่วยให้ผู้อ่านหนุ่มๆ อ้างได้ว่าไม่ได้ซื้อ Playboy เพื่อมาดูรูปเพียงอย่างเดียว

ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ แต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง ภรรยาคนแรก คือมิลเดรด วิลเลียมส์ เพื่อนสาวร่วมรุ่น ซึ่งเปิดใจก่อนแต่งงานว่า เคยนอกใจ ฮิว เฮฟเนอร์ ระหว่างที่เขาไปเกณฑ์ทหาร เธอจึงอนุญาตให้เขาหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่นๆ เพื่อเป็นการไถ่บาป โดยหวังว่าชีวิตคู่จะมั่นคง แต่สิ่งนั้นกลับทำให้เฮฟเนอร์กลายเป็นคนที่หลงใหลในเรื่องทางเพศ จนทั้งคู่ต้องหย่าร้างกันในปี 1959

เฮฟเนอร์ แต่งงานครั้งที่ 2 กับ คิมเบอร์ลีย์ คอนแรด นางแบบรุ่นลูกที่อายุน้อยกว่าถึง 36 ปี ก่อนแต่งงานครั้งสุดท้ายกับ คริสตัล แฮร์ริส นางแบบรุ่นหลานที่อายุห่างกันถึง 60 ปี เมื่อปี 2012 โดย เฮฟเนอร์ อ้างว่าตนเองหลับนอนกับผู้หญิงมาแล้วนับพันคน และขอบคุณยาไวอากร้าที่ช่วยให้ตนเองรู้สึกเป็นหนุ่มอยู่เสมอ

นอกจากภาพลักษณ์เพลย์บอยรุ่นใหญ่แล้ว ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ ยังช่วยเหลืองานสังคมหลากหลาย ขณะที่กลุ่มสิทธิสตรีมองเขาเป็นผู้หากินกับเรือนร่างของผู้หญิง แต่บางคนมองว่าหนังสือของเขาเป็นชนวนการปฏิวัติเสรีภาพทางเพศในสังคมอเมริกัน ซึ่งตัว ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ คิดว่าการนำเสนอความอื้อฉาว จะทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง และหนังสือของเขาช่วยให้ความเห็นที่แตกต่าง เป็นที่รับรู้ของสังคม

ปีที่แล้ว ฮิวจ์ เฮฟเนอร์ ตัดสินใจขาย Playboy Mansion แก่เพื่อนบ้านในราคา 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับอนุญาตให้อาศัยต่อไปจนกว่าจะเสียชีวิต โดยร่างของเขาจะถูกฝังอยู่ข้างๆ สุสานของ มาริลีน มอนโร ถือเป็นที่พักพิงสุดท้ายของต้นตำรับเพลย์บอยอย่างแท้จริง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง