ที่สุดแห่งความ "ประทับใจ" คืนสุดท้ายกราบถวายบังคมพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

สังคม
6 ต.ค. 60
12:25
27,245
Logo Thai PBS
ที่สุดแห่งความ "ประทับใจ" คืนสุดท้ายกราบถวายบังคมพระบรมศพ รัชกาลที่ 9
พสกนิกร บอกเล่าถึงความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต หลังการกราบถวายบังคม พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง แค่เพียงเสี้ยวนาทีก็รู้สึกอิ่มเอมที่ได้ใกล้พระองค์ท่าน และรู้สึกใจหาย

วันนี้(6 ต.ค.2560)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สิ้นสุดลงในเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันนี้ ตลอดระยะเวลา 337 วันมีประชาชนเข้ามากราบ 12,739,531 คน

ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ มีโอกาสร่วมซึมซับ ถึงภาพความประทับใจจากประชาชนที่หลั่งไหลจากทั่วประเทศ ที่ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การได้เข้ากราบถวายบังคม "พ่อหลวง" เป็นครั้งสุดท้าย และบางคนยังอุทิศตัวเองเป็นจิตอาสา ชาวบ้านบางคนเดินทางจากต่างจังหวัดมา 12 ครั้ง ใช้เวลานาน 12-13  ชั่วโมงอย่างไม่ย่อท้อ 

 

 

อยากเห็นพระองค์ให้ใกล้ที่สุด เคยเข้าคิวรอกราบถวายบังคมแล้วเป็นลมจนทหารต้องเข้ามาช่วยและต้องเดินทางกลับบ้าน แต่วันรุ่งขึ้นก็เดินทางมาสนามหลวงอีกครั้ง

 น.ส.สุธีนุช ธุวะคำ บอกว่า เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทั้งหมด 5 ครั้ง รอคิวนานที่สุด 13 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่ย่อท้อและไม่คิดว่าเป็นความยากลำบาก ถึงแม้บางครั้งมีฝนตก หรืออากาศร้อน เพราะทุกคนก็รอเพื่อจะได้ใกล้ชิดพระองค์มากที่สุด

เช่นเดียวกับเยาวชนจาก จ.สระแก้ว ทั้ง 5 คนกลุ่มนี้บอกว่าพวกเค้าเดินทางมาครั้งแรก เพราะได้เข้ามากวดวิชาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงอยากเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 สักครั้งหนึ่ง เพราะคงไม่ได้มีโอกาสแบบนี้

 

 

นายปัญญา โชติ นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม จ.สระแก้ว บอกว่า เค้าและเพื่อนทั้ง 13 คนเดินทางมาถึงสนามหลวงเกือบ 17.30 น.ใช้เวลาในการเข้ากราบพระบรมศพเกือบ 7 ชั่วโมง

ในภาพจำของผม รู้สึกประทับใจในทุกเรื่องของพระองค์ท่าน ทั้งพระราชกรณียกิจ และคำสอนของท่าน ที่เรียนในห้องเรียน และเห็นภาพท่านยังคงอยู่ในความทรงจำ พระองค์เป็นแบบอย่าง ถึงแม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้วก็จะนำคำสอนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เช่น การประหยัดใช้เงินอย่างมีคุณค่า 

 

 

เช่นเดียวกับนายไตรรัตน์ เอกอัครบัณฑิต โปรดิวเซอร์รายการข่าว เนชั่นทีวี บอกว่า คงเหมือนคนที่มารวมอยู่วันละหลายหมื่นคนเพื่อให้มีโอกาสกราบลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย 

ผมตั้งใจมาแม้ว่าจะต้องใช้เวลารอนานถึง 9 ชั่วโมง แต่ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เพราะมองไปก็เห็นคนที่รักพระองค์มารวมอยู่ในจุดนี้

ยอมรับว่ารู้สึกขนลุก น้ำตาจะไหล เมื่อขึ้นไปบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พอออกมาแล้ว หันกลับไปมองพระพี่นั่งแล้วรู้สึกใจหาย การก้มกราบแค่ไม่กี่วินาที ก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่เกิดในรัชกาลที่ 9 

 สำหรับถนอม คงภักดี พนักงานบริษัท บอกว่าที่ตัดสินใจมาทำอาสาสมัคร เพราะงานนี้เป็นงานสำคัญ พระราชพิธีแบบนี้ก็มีคนอยากจะมากราบไหว้จำนวนมาก บางคนก็ไม่ทราบวิธีปฏิบัติตัว วิธีการแต่งกาย หรือไม่ทราบเส้นทางเนื่องจากมาจากต่างจังหวัด ถ้ามีอาสาสมัครมาคอยดูแลและให้ข้อมูลก็เป็นการช่วยเหลือ ในส่วนหน้าที่ที่ทำนั้น มีทั้งการประชาสัมพันธ์ จราจร และบริการจัดแถว รวมถึงช่วยคนไทยมีน้ำใจแจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชนที่มากราบพระบรมศพ

 

 

ติดตามท่านตั้งแต่โรงพยาบาลศิริราช ขับรถจักรยานยนต์ ตามมาจนสุดทางที่จะไปได้เพื่อส่งเสด็จ ตอนนำพระบรมศพไปที่พระราชวัง วันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบ คือวันแรกในการทำงานอาสานี้ ทุกช่วงเวลาที่ว่าง ไม่ว่าเช้าหรือเย็นหรือค่ำก็จะหาเวลามาอยู่เสมอ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมากและเป็นวันที่เปิด 24 ชั่วโมง ผมมาทำอาสาปล่อยแถวประชาชนเข้าจุดคัดกรองตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง ตี 2 ฝนตก แดดออกก็ยืนอยู่ตรงนี้

วันนี้ กำแพงพระบรมมหาราชวัง ฝั่งถนนมหาราช ซึ่งตรงกับด้านข้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  เต็มไปด้วยมาลัยดอกดาวเรือง และช่อดอกไม้สีเหลือง ที่ประชาชนนำมาวางไว้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิ คุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แม้ว่าการเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้สิ้นสุดลงแล้ว

ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ รายงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง