วันนี้ (17 ต.ค.2560) น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า วันนี้ กระทรวงการคลังจะเริ่มแจกบัตรสวัสดิการให้กับผู้มีสิทธิถือบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สมุทรปราการ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร จำนวน 1,300,000 คน เป็นวันแรก และพร้อมใช้งานได้แน่นอน โดยจะติดสติ๊กเกอร์เพื่อให้ทราบวงเงินสำหรับซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ ส่วนการใช้งานบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับระบบตั๋วร่วม หรือบัตรแมงมุม ผู้มีสิทธิใช้บัตรสวัสดิการจะใช้สิทธิเพื่อขึ้นรถเมล์ที่ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่องอีดีซี) 800 คัน ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป โดยไม่กระทบกับผู้ใช้งาน เนื่องจากรัฐบาลขยายบริการรถเมล์ฟรีถึงสิ้นเดือนตุลาคมแล้ว
ขณะที่สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบการขายตั๋วของรถไฟฟ้าให้รองรับบัตรแมงมุม คาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานได้ประมาณกลางปี 2561 ส่วนกรณีผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในจังหวัดอื่น นอกจากกรุงเทพฯ และ 6 จังหวัด ที่มีความประสงค์ขอเปลี่ยนเป็นบัตรแมงมุม เนื่องจากปัจจุบันได้ย้ายมาอาศัยอยู่ใน 7 จังหวัดดังกล่าว อาจขอยื่นเปลี่ยนบัตรได้ตามหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนด สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cgd.go.th คลิ๊กที่แบนเนอร์ National e-Payment
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงการคลังหาแนวทางเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนการใช้จ่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐนั้้น นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะมีการหารือแนวทางดังกล่าว เบื้องต้นใช้การปรับเปลี่ยนวงเงินภายในบัตร เช่น หากประชาชนไม่จำเป็นต้องใช้วงเงินสำหรับการเดินทางโดยรถไฟ หรือ บขส. สามารถนำวงเงิน 500 บาท มาใช้ในการซื้อสินค้า ทำให้มีวงเงินซื้อสินค้าเพิ่มเป็น 700-800 บาท โดยจะเร่งให้ได้ข้อสรุปเร็วที่สุด
ส่วนความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องอีดีซี ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยเร่งดำเนินการ คาดว่าแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ ซึ่งกระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดขยายการใช้บัตรสวัสดิการไปยังร้านค้าชุมชน หรือร้านค้าอื่น ๆ เนื่องจากรัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ร้านธงฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขนาดเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการ