วันนี้ (19 ต.ค.2560) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมเมื่อวันที่ 13-14 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรถยนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ล่าสุดจากการตรวจสอบเมื่อวันที่ 18 ต.ค. พบว่ามีรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมเสียหาย 3,184 คัน โดยทำประกันภัยไว้กับบริษัทประกันวินาศภัย 41 บริษัท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 45.6 ล้านบาท ซึ่งทาง คปภ. ติดตามสถานการณ์และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดตรวจสอบความเสียหายและพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
นายสุทธิพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม แบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท ซ่อม 15 รายการ ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาท ซ่อม 26 รายการ ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท ซ่อม 39 รายการ ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป ซ่อม 40 รายการ และระดับ E รถยนต์จมน้ำทั้งคัน ซึ่งในกรณีนี้บริษัทผู้รับประกันภัยจะคืนทุนประกันภัยให้กับผู้รับประกันภัยสถานเดียว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์ร้อยละ 70 จากจำนวน 3,155 คัน เสียหายในระดับ A และ B
สำหรับประชาชนที่รถยนต์เสียหาย แต่ไม่ได้ทำประกัน หรือประกันภัยไม่ครอบคลุมน้ำท่วม เลขาธิการ คปภ. แนะนำให้ใช้แนวปฏิบัติตามมาตรฐานซ่อมรถยนต์ข้างต้น ในการป้องกันมิให้อู่ซ่อมรถยนต์เรียกค่าซ่อมเกินจริง พร้อมแนะนำให้พิจารณาเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองกรณีน้ำท่วม