จัดทีมเฝ้า "ระวังโรค"กลุ่มเสี่ยงปชช.ร่วมงานพระราชพิธีฯ ท้องสนามหลวง

สังคม
20 ต.ค. 60
14:08
817
Logo Thai PBS
จัดทีมเฝ้า "ระวังโรค"กลุ่มเสี่ยงปชช.ร่วมงานพระราชพิธีฯ ท้องสนามหลวง
กรมควบคุมโรค จัดทีมจิตอาสาเฉพาะกิจเฝ้าระวังโรค และดูแลสุขภาพประชาชนในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 17-30 ต.ค.นี้ แนะกลุ่มเสี่ยงต่อโรคเลี่ยงอยู่ในพื้นที่คนจำนวนมาก

วันนี้ (20 ต.ค.2560) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่  9 จะมีประชาชนเดินทางมาร่วมในพระราชพิธีจำนวนมาก ทั้งในบริเวณท้องสนามหลวง และส่วนภูมิ ภาคในแต่ละจังหวัด กรมควบคุมโรค จึงได้รับสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจ ทีมเฝ้าระวังสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพผู้เข้าร่วมงานฯ และทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค โดยดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องสนามหลวง ปฏิบัติงานที่บริเวณจุดถวายดอกไม้จันทน์โดยรอบ เริ่มการประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคตั้งแต่วันที่ 17-30 ต.ค.นี้  

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค ยังกำชับให้สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักงานป้องกันควบ คุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งการให้ความรู้ แจกเอกสารความรู้ และคำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนแต่ละจังหวัด เพื่อการป้องกันควบคุมโรคเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก โดยเฉพาะจุดปล่อยรถโดยสาร ที่จะเดินทางมากรุงเทพฯ และร่วมกับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์ในแต่ละพื้นที่ ดูแลสุขภาพประชาชนที่มาร่วมในงานพระราชพิธีฯ

เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อาจทำให้มีฝนตกสลับอากาศร้อน กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนําประชาชนในการดูแลสุขภาพในกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมากภายในพื้นที่จํากัด เพื่อลดการเจ็บป่วยและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

 

เตือนกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวังโรค-เลี่ยงพท.คนจำนวนมาก

โดยโรคติดต่อที่ควรระวังในช่วงนี้ ได้แก่ โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ที่ติดต่อได้ง่ายในกลุ่มคนที่อยู่รวมกันแออัด โรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร ที่มากับอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เช่น โรคอาหารเป็นพิษ และ โรคที่มียุงลายเป็นพาหะ เช่น โรคไข้เลือดออกและโรคติดเชื้อไวรัสซิกาไข้หวัดใหญ่ ติดต่อจากการไอ จามรดกัน หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่หากจําเป็นต้องเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมากให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและล้างมือบ่อยๆ

นอกจากนี้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่หากป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน  ผู้มีโรคเรื้อรัง คือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปทุกคน ผู้มีน้ำหนักตัว มากกว่า 100 กิโลกรัม  ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง สำหรับประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมกิจกรรมควรปฏิบัติตามหลักสุขอนา มัย เช่น ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ หากมีอาการไอ จาม ให้ใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าปิดปากปิดจมูก

นอกจากนี้ ยังมีโรคอาหารเป็นพิษ ในช่วงกลางวันที่มีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวอาจทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย ประชาชนจึงมีความเสี่ยงจากโรคอาหารเป็นพิษ ประชาชนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม โดยเลือกรับประทานที่ปรุงสุกใหม่ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง