"นายกรัฐมนตรี" ลงกำกับซ่อมพนังกั้นบ้านน้ำคุยโพธิ์ จ.ขอนแก่น

วันนี้ (31 ต.ค.2560) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สถาน การณ์น้ำท่วมที่ต้องดำเนินการแก้ไขคือที่ จ.ขอนแก่น หลังจากพนังกั้นน้ำบ้านคุยโพธิ์ ต.บึงเนียม จ.ขอนแก่น ที่ทรุดพังกว้าง 30 เมตร น้ำยังล้นตลิ่งไหลเข้ามาเติมพื้นที่การเกษตรอย่างต่อเนื่องหากภายใน 2 วันนี้ ยังไม่สามารถปิดพนังกั้นน้ำ จะกระทบต่อพื้นที่ตำบลพระลับ ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในแต่จะยังไม่กระทบเขตเทศบาลเมืองขอนแก่น

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่น้ำท่วม ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ และ ต.โผงเผง อ.ป่า โมก จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำหรือ แก้มลิง ตามแผนการบริหารจัดการน้ำ พร้อมชี้แจงถึงความจำ เป็นที่ต้องระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 แต่จะช่วยเหลืออย่างเหมาะสม และขอบคุณ ในฐานะที่จุดนี้เป็นพื้นที่รับน้ำ หรือแก้มลิง ตามแผนการบริหารจัดการน้ำ พร้อมระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยประชาชน โดยขอให้จัดทำแผนหลัก แผนรอง และแผนเผชิญเหตุรวมทั้งการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัย

นายกฯ ชี้ลงพท.น้ำท่วมอย่ามองหาเสียง

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การลงพื้นที่ไม่ได้มาหาเสียง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ยืนยันจะแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด ขณะที่ นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้รายงานสรุปสถานการณ์ภาพรวม โดยคาดการณ์ว่าไม่เกิน 15 วัน จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

มีรายงานว่าการบินด่วนลงพื้นที่จังหวัดอ่างทองของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เพราะไม่ต้องการให้เจ้าหน้า ที่เตรียมการมากนัก จึงเลือกพื้นที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักและเป็นจุดที่ประชาชนได้รับผลกระทบมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อพบปะประชาชนและชี้แจงถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ

และวันนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูปัญหาน้ำท่วม โดยจะเดินทางไปดูการปฏิบัติงานปิดพนัง คันดินคลองส่งน้ำชลประทานที่บ้านคุยโพธิ์ หมู่ 6 ต.บึงเนียม รวมถึงตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน แล้วเดินทางต่อไปยังบ้านบึงสวาง หมู่ 5 ต.บึงเนียม มอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย

นอกจากนี้ในการประชุม ครม. จะมีการหารือถึงมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 23 จังหวัด โดยกระทรวงมหาดไทย จะเสนอแผนช่วยเหลือภัยพิบัติตามระเบียบ และหลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง

รวมทั้งให้สถาบันการเงินของรัฐปล่อยสินเชื่อสำหรับซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือขยายกิจการเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีมาตรการพักหนี้ ยืดเวลาชำระหนี้ และลดดอกเบี้ยช่วยเหลือเกษตรกร ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังไม่เสนอมาตรการต่อที่ประชุม