นายไซฟูลโล ไซพอฟ ชาวอุซเบกิซสถาน วัย 29 ปี ถูกนำตัวขึ้นศาลในสภาพนั่งรถเข็น เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บกลางลำตัว หลังก่อเหตุขับรถกระบะพุ่งชนผู้บริสุทธิ์บนทางจักรยานในมหานครนิวยอร์ก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 12 คน
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการก่อการร้ายครั้งแรกในนิวยอร์ก นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีตึกแฝดเวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นแผ่นกระดาษเขียนข้อความเป็นภาษาอาหรับ อ้างว่า ก่อเหตุโจมตีในนามของกลุ่มไอเอส โดยนายไซพอฟสารภาพว่า เริ่มวางแผนก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้มานานนับปี
ในเอกสารคำฟ้อง ระบุว่า นายไซพอฟตั้งใจเลือกก่อเหตุในวันฮาโลวีน เพื่อสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด เนื่องจากคาดว่าตามท้องถนนจะมีผู้คนพลุกพล่านมากกว่าช่วงเวลาปกติ
อัยการเขตนิวยอร์กใต้ เปิดเผยว่า ได้ตั้งข้อหานายไซพอฟ 2 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาสนับสนุนองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ ซึ่งในที่นี้ระบุว่าคือกลุ่มไอเอส รวมทั้งข้อหาสร้างความเสียหายและก่อความรุนแรงด้วยยานพาหนะ
นายไซพอฟ ผู้ก่อเหตุ ระบุว่า เขารู้สึกดีหลังจากที่ได้ก่อเหตุและสังหารผู้คนในครั้งนี้ และที่จริงแล้วต้องการติดธงไอเอสบนรถกระบะคันก่อเหตุ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจไม่ติดธงไอเอสเอาไว้ เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจให้มากจนเกินไป โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวิดีโอของผู้นำไอเอสที่ตั้งคำถามว่า ชาวมุสลิมได้ทำอะไรเพื่อเป็นการล้างแค้นให้แก่การสูญเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในแผ่นดินอิรักบ้าง
ขณะที่จอห์น มิลเลอร์ รองผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองและการต่อต้านการก่อการร้ายนิวยอร์ก ระบุว่า นอกจากปืนปลอมที่เป็นปืนเพนท์บอลและปืนอัดลมแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบมีดอีกหลายเล่มอยู่ในรถที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบภาพนิ่งและวิดีโอชวนเชื่อของกลุ่มไอเอสในโทรศัพท์ของนายไซพอฟ มากกว่า 90 ชิ้น ซึ่งคล้ายกับว่าผู้ก่อเหตุกระทำการตามวิธีที่กลุ่มไอเอสเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ว่าให้ก่อเหตุโจมตีในลักษณะนี้
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายไซพอฟเคยมีอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่อูเบอร์และเคยถูกจับกุม 2 ครั้งฐานละเมิดกฎจราจร แต่ไม่เคยถูกสืบสวนจากสำนักงานตำรวจนิวยอร์กและสำนักงานสืบสวนกลางมาก่อน
ขณะที่บิล สวีนี ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (FBI) ซึ่งดูแลการสอบสวนคดีนี้ เปิดเผยว่า เอฟบีไอพบตัวชายชาวอุซเบกิซสถาน คนที่ 2 ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.2560) เอฟบีไอออกประกาศตามหาตัวชายคนดังกล่าว
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า จะเดินหน้ายุติโครงการให้วีซ่าแก่ชาวต่างชาติที่ต้องการพำนักในสหรัฐอเมริกาแบบสุ่มเลือก หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า lottery program ซึ่งเป็นโครงการที่นายไซพอฟ ผู้ก่อเหตุ ใช้เข้ามาอาศัยในสหรัฐอเมริกาและเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ พร้อมประกาศที่จะพิจารณาส่งตัวนายไซพอฟไปคุมขังในเรือนจำทหารที่อ่าวกวนตานาโมในคิวบา อีกทั้งวิจารณ์ระบบยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาว่าควรจะดำเนินการพิจารณาโทษผู้ก่อเหตุให้รุนแรงและรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่
ขณะที่ชาวอาร์เจนตินาในเมืองโรซาริโอ จุดเทียนและยืนไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตที่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนโพลีเทคนิค และนัดพบกันในนิวยอร์ก เพื่อฉลองครบรอบการจบการศึกษาครบ 30 ปี ก่อนจะเกิดเหตุสลดใจขึ้น