change.org เรียกร้องตรวจสอบ "เมย" เสียชีวิต คนผิดต้องลาออก

อาชญากรรม
24 พ.ย. 60
07:01
2,797
Logo Thai PBS
change.org เรียกร้องตรวจสอบ "เมย" เสียชีวิต คนผิดต้องลาออก
change.org เรียกร้องตรวจสอบกรณี "ภคพงศ์ ตัญกาญจน์" หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต ให้องค์กรอิสระร่วมด้วย เช่น กสม. เพื่อให้ครอบคลุมและโปร่งใส หากพบเจ้าหน้าที่มีความผิดจะต้องลาออกและดำเนินคดี รวมทั้งยกเลิกมาตรการ “ธำรงวินัย”

วันนี้ (24 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ จัดแคมเปญรณรงค์ หัวข้อ "เจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ “น้องเมย” ต้องลาออก" ผ่านทาง www.change.org โดยตั้งเป้าให้มีผู้ลงชื่อสนับสนุน 25,000 คน เพื่อนำรายชื่อไปร้องเรียนกับกองทัพบก พร้อมระบุข้อเรียกร้อง 5 ข้อดังนี้

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ได้เสียชีวิตหลังจากกลับเข้ารับการฝึกที่โรงเรียนนายร้อยได้เพียง 1 วัน โดยทางโรงเรียนได้แจ้งกับทางญาติว่าน้องเมยเสียชีวิตจากสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ทุกๆ ปี นักเรียนนายร้อยและทหารเกณฑ์จำนวนไม่น้อย ต้องเสียชีวิตจากวัฒนธรรมการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการซ้อม การซ่อม หรือการ “ธำรงวินัย”

นอกจากนี้ ผู้นำระดับสูงของกองทัพ และรัฐบาล ยังได้แสดงทัศนคติต่อเหตุการณ์ดังกล่าวราวกับเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งยังอ้างว่าน้องเมยเสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพของตนเอง ความพยายามของกองทัพในการสร้างความชอบธรรมให้กับวัฒนธรรมป่าเถื่อนรุนแรงของตัวเองเช่นนี้ จึงเท่ากับการบอกกับสังคมไทยว่า “น้องเมยจะไม่ใช่ศพสุดท้าย” และวัฒนธรรมการใช้กำลังภายในกองทัพก็จะยังคงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป

ในฐานะประชาชนไทย เราไม่ต้องการเห็นลูกหลานของพวกเราที่มีหัวใจรับใช้ชาติต้องประสบกับชะตากรรมดังกล่าว แคมเปญนี้จึงเกิดขึ้น เพื่อสะท้อนเสียงแห่งความไม่พอใจของประชาชนให้กองทัพนำไปปรับปรุงและพัฒนาองค์กรของตนให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล และคุณค่าประชาธิปไตย โดยมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. กองทัพจะต้องดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องเมยอย่างครอบคลุมและโปร่งใส ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชา จนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเปิดเผยผลการสอบสวนต่อสาธารณะ

2. ให้มีตัวแทนจากองค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าร่วมในการสอบสวนด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดการทุจริต หรือกรณีอื่นที่เกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพ กองทัพมักจะทำหน้าที่ตรวจสอบกองทัพด้วยกันเอง ซึ่งถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ (conflict of interests) ทำให้สาธารณชนไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่ากระบวนการตรวจสอบของกองทัพโดยกองทัพ จะทำให้ได้ข้อมูล และข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน

3. เมื่อดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทุกคนจะต้องลาออกจากราชการ และถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุดทั้งในทางวินัย แพ่ง และอาญา โดยต้องไม่มีการปกป้องพวกพ้อง หรืออะลุ่มอล่วยใดๆ

4. กองทัพจะต้องชดเชยค่าเสียหาย และค่าเยียวยาจิตใจ ให้กับครอบครัวของเหยื่ออย่างครอบคลุม

5. ยกเลิกมาตรการ “ธำรงวินัย” ที่ใช้ความรุนแรง และหามาตรการอื่นที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน และความปลอดภัยในชีวิตของผู้รับการฝึก

ทั้งนี้ เราเชื่อว่าการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวจะเป็นการสร้างบรรทัดฐาน และส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับทางกองทัพ และประเทศชาติได้เป็นอย่างดี

ล่าสุด เวลา 07.00 น. มีผู้ลงชื่อร่วมสนับสนุนแคมเปญนี้ จำนวน 15,735 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง