เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.2560) เทศบาลเมืองคอหงส์ จ.สงขลา เปลี่ยนธงสัญลักษณ์บนป้ายเตือนภัยน้ำท่วมมาเป็นธงสีแดง บริเวณคลองหวะ ซึ่งเป็นคลองที่อยู่รอบนอกของตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูงปริมาณน้ำในคลองหวะเพิ่มขึ้นอาจล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมคลอง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ มีรายงานผู้สูญหายแล้ว 1 คน เป็นชายอายุ 60 ปี ใน อ.สะบ้าย้อย สูญหายหลังถูกกระแสน้ำพัดขณะเดินฝ่ากระแสน้ำบนถนนภายในหมู่บ้านที่ไหลเชี่ยวและชาวบ้านช่วยไว้ไม่ทัน
ด้าน ปภ.สงขลา ระบุว่ามี 3 อำเภอ ที่กำลังเผชิญสถานการณ์น้ำท่วม คือ อ.สทิงพระ อ.เทพา และ อ.นาหม่อม คาดว่าน่าจะมีอีกหลายอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตามมา เพราะฝนยังตกต่อเนื่องและอยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามสถานการณ์
ส่วนที่ จ.นราธิวาส ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักนานติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนบ้านสาเมาะ ต.บองอ อ.ระแงะ จนอาคารเรียนถูกน้ำท่วมต้องยกสิ่งของเครื่องใช้ไว้บนที่สูง ล่าสุด นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ทั้ง 13 อำเภอ เตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วมและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง หากมีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนให้เร่งเข้าไปช่วยเหลือ
ขณะที่ จ.กระบี่ ฝนตกหนักติดต่อกันนาน 2 วัน ทำให้ปริมาณน้ำในคลองหลายสายต่างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จึงออกประกาศด่วนที่สุดถึงนายอำเภอทั้ง 8 อำเภอ ให้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ชายฝั่งเฝ้าสังเกตระดับน้ำในลำคลอง พร้อมให้เฝ้าระวังอันตรายจากน้ำท่วมน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้น
ส่วน จ.ตรัง ชาวบ้านในหลายพื้นที่ต้องอพยพหนีน้ำ และเฝ้าระวังระดับน้ำตลอดคืน ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนเขตเทศบาล ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง ซึ่งเป็นย่านการค้าที่สำคัญ ต้องขายอาหารกลางน้ำ และเฝ้าระวังทรัพย์สินในตอนกลางคืน หลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลลงเข้าท่วมพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ระหว่าง 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร บนถนนสายตรัง - พัทลุง ถูกน้ำท่วมสูงเป็นช่วงๆ ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ประชาชนต้องเลี่ยงเส้นทางเดินทาง
ทางจังหวัดตรังคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 8 อำเภอ จากทั้งหมด 10 เพราะขณะนี้ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง
ชาวบ้านนาหลุม - นาล้อม ต.บ้านหาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี กว่า 60 ครอบครัว ถูกน้ำท่วมมาเกือบ 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันก่อนหน้านี้ น้ำท่วมขังสูงกว่าทุกครั้ง จนรถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ อีกทั้งน้ำเริ่มเน่าเหม็น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน
ส่วนพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี อีกหลายชุมชนยังคงมีน้ำท่วมขัง แม้หลายจุดน้ำจะเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว เช่น ที่ชุมชนนามอญในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี, พื้นที่หมู่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ชาวบ้านยังต้องใช้เรือเป็นพาหนะ เนื่องจากบางช่วงมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ระดมเครื่องสูบน้ำแบบระยะไกล 5 เครื่อง มาติดตั้งบริเวณทางลอดอุโมงค์ใต้ถนนเพชรเกษม ช่วงเส้นทางไป อ.บ้านลาด เพื่อระบายน้ำตลอดเส้นทางคู่ขนานไปจนถึงทางลอดอุโมงค์สี่แยกบันไดอิฐ ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เพื่อให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น