วันนี้ (3 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การวิ่งก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาล วันที่ 33 ของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม เป็นสิ่งที่ต้องจับตา เพราะว่าวันนี้จะวิ่งอีก 70 กิโลเมตร เพื่อเข้าเขตกทม. โดยวันนี้ ตูน ออกมาวิ่งตั้งแต่เวลา 02.30 น.หลังจากการวิ่งในจุดสุดท้ายเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ถึงเซตสุดท้าย เวลา 22.00 น.ที่อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จากนั้นพักไม่เกินสองชั่วโมงก็ออกมาวิ่งต่อ เพื่อเป้าหมายการวิ่งเข้ากทม.ในคืนวันนี้
ตูน บอดี้สแลม มีกำหนดวิ่งเข้ากทม. ซึ่งเหลือระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร โดยจะไปจบที่คิงส์พาวเวอร์ ซอยรางน้ำ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้ตูน ตัดสินใจ นอนพักไม่ถึง 3 ชั่วโมง และออกมาวิ่งต่อในเวลา 02.30 น. และทำความเร็วได้ค่อนข้างดี เพราะจบ 2 เซต ระยะทาง 20 กิโลเมตรด้วยเวลา 6 ชั่วโมง ด้วยการมาถึง ปั้มปตท.ธรรมศาลา เวลา 08.30 น.
ตูน บอดี้สแลม ได้เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊ก ของนายอิทธิพล สมุมรทอง ที่เป็นคนคอยดูแลพี่ตูนระหว่างการวิ่งว่า ต้องการวิ่งเข้าสู่ กทม.ในวันนี้ช่วงเย็นตามกำหนด เพื่อไม่ให้รบกวนปัญหาการจราจรในวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค.นี้
นอกจากนี้ นายสาธิก ธนะทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา พิธีกรรายการ ข.ขยับ ของไทยพีบีเอส กล่าวว่า เมื่อดูสภาพร่างกายของตูน ยังคงสามารถวิ่งไปต่อได้ แต่ว่าต้องคอยระวังไม่ให้ตูน หยุดบ่อยๆ ซึ่งขอให้ประชาชนที่รอบริจาค ลองใช้วิธีปรบมือให้กำลังใจ และส่งเงินให้กับทีมงานที่รอรับเงินบริจาค ที่วิ่งนำหน้าหรือตามหลัง ตูน บอดี้สแลม ก็สามารถช่วย 11 รพ. ได้เช่นกัน และการวิ่งจะมีด้วยกัน 6 เซต ก็จากราชบุรี นครปฐม กทม.รวมระยะทาง 70 กิโลเมตร คาดว่าจะถึงจุดสุดท้ายคือคิงส์พาวเวอร์รางน้ำคืนนี้ ส่วนยอดเงินบริจาคล่าสุด 408 ล้านบาท
ตำรวจขอความร่วมมืองดหยุดถ่ายรูปบนถนน
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงานล่าสุดจากตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ว่า ขณะนี้ ขบวนวิ่งก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ " ตูน บอดี้สแลม " ได้ผ่าน วัดศรีษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แล้ว เหลือระยะทางอีกประมาณ 15 กม. จะถึงโรงพิมพ์ธนบัตร โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และชาวจังหวัดนครปฐมให้การต้อนรับ และมอบเงินสบทบ ซึ่งคาดว่าขบวนจะเดินทางเข้ามาถึงกทม. เวลาประมาณ 15.30 น. จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางดังกล่าว ว่าหากเจอทีมงานของ ตูน บอดี้แสลม ระหว่างทาง ขอความกรุณาพี่น้องประชาชนที่ต้องการถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอ ขอให้พี่น้องประชาชนใช้วิจารณญาณความเหมาะสม โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นหลัก และไม่ให้กระทบต่อการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น