วันนี้ (6 ธ.ค.2560) ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอประชาชนอย่าวิตกกรณีกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ สั่งระงับการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก หลังพบอาการข้างเคียงในประชาชนที่รับบริการ แม้จะเป็นวัคซีนชนิดเดียวกันที่ฉีดในไทย แต่ขณะนี้ยังไม่สั่งระงับการใช้ พร้อมยืนยันว่ายังเน้นมาตรการป้องกันโรคกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายมากกว่าการใช้วัคซีน เพราะพบการระบาดของโรคน้อยกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ร้อยละ 70 ที่ให้ภาครัฐต้องจัดบริการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่ได้บรรจุวัคซีนไข้เลือดออกเป็นวัคซีนพื้นฐานของประเทศ แต่มีโรงพยาบาลเอกชนฉีดให้บริการประชาชน ซึ่งประสิทธิภาพของวัคซีนชนิดนี้สามารถป้องกันได้ร้อยละ 60 เท่านั้น ผู้ที่เคยป่วยโรคไข้เลือดออกมาแล้วก็สามารถป่วยได้อีก แต่อาการจะไม่รุนแรง หรือมีผลข้างเคียงเหมือนกับผู้ที่ไม่เคยป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกมาก่อน พร้อมกำชับกรมควบคุมโรค เฝ้าระวังกลุ่มที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว และเตรียมประชุมหารือข้อมูลทางวิชาการและออกข้อบ่งชี้การใช้วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
สำหรับวัคซีนไข้เลือดออกขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเมื่อปี 2559 และให้บริการในโรงพยาบาลเอกชน ขณะนี้รอผลการพิจารณาจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติว่าจะระงับการขึ้นทะเบียนหรือไม่
ขณะที่ รศ.นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เชิญบริษัทผู้ผลิตวัคซีนดังกล่าว ตัวแทนจาก อย. กรมควบคุมโรค และผู้เชี่ยวชาญ หารือเป็นการภายในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ก่อนนำเสนอข้อมูลทางวิชาการให้คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรควันที่ 14 ธ.ค.นี้ ขณะนี้ขอให้แพทย์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องก่อนให้บริการประชาชน หรือหากเป็นไปได้ขอให้ประชาชนระงับการฉีดวัคซีนไข้เลือดออกไปก่อน