เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.2560) ผู้เสียหายชาวไทย 9 คน ถูกนำมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากได้รับการประสานงานให้ช่วยเหลือกลับมาจากประเทศกัมพูชา เนื่องจากถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์กลับมาหลอกคนไทย
หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้ไปทำหน้าที่รับโทรศัพท์ที่ประเทศกัมพูชา โดยได้เงินเดือนละ 20,000 บาท แต่เมื่อไปถึงที่นัดหมาย มีหัวหน้าขบวนการชาวไต้หวัน 2 คน และมาเลเซีย 1 คน ทำหน้าที่เป็นคนสอนวิธีการหลอกลวง โดยให้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าหน่วยงานสถาบันการเงิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลอกให้โอนเงินกลับมา ซึ่งเมื่อได้รับการสอนแล้ว เห็นว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการหลอกลวงผู้อื่น ตามที่เคยเป็นข่าว จึงตัดสินใจโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยประจำประเทศกัมพูชา จนได้รับการช่วยเหลือออกมา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า หลังจากที่ตำรวจเร่งกวาดล้างกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทย ทำให้กลุ่มเหล่านี้เริ่มย้ายที่ตั้งไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา และฟิลิปปินส์ แต่ยังใช้วิธีการหลอกลวงแบบเดิม
สำหรับกลุ่มขบวนการนี้ จากการสืบสวนพบว่าเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ถูกจับได้ใน จ.เชียงใหม่ ไปแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตำรวจยังเตือนให้ผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีให้กับกลุ่มขบวนการเหล่านี้ ให้ปิดบัญชีหรืออย่าไปหลงเชื่อร่วมก่อเหตุ เพราะจะถูกดำเนินคดีไปด้วย โดยหลังจากนี้จะเร่งประสานกับผู้ช่วยทูตในประเทศเพื่อนบ้านให้ประสานความร่วมมือในการตรวจสอบกลุ่มบุคคลเหล่านี้
ส่วนผู้เสียหายทั้งหมดจะถูกส่งไปสอบปากคำอย่างละเอียดถึงขั้นตอนที่ถูกหลอก รวมทั้งประวัติการเดินทางเข้าออกไปประเทศอื่นๆ ว่าเป็นผู้เสียหายจริงหรือไม่ โดยผู้เสียหายทั้งหมดยินยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่