วานนี้ (12 ธ.ค.2560) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตรอักษร หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายในท้องที่บ้านพลับใหม่ ท้องที่หมู่ที่ 10 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีการร้องเรียนจากผู้หวังดีว่ามีกลุ่มแอบลักลอบเข้าไปหาไม้หอมในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และนำมาจำหน่ายหรือนำมาเก็บในบ้านเป้าหมาย ทางชุดปฏิบัติการฯ จึงใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช ที่ 13/2559 นำโดย ร.ต.สมใจ ชื่นวงษ์ เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย
คณะเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจบ้านที่ได้เปิดโรงกลั่นไม้หอม จำนวน 3 แห่ง โดยพบว่าโรงกลั่นไม้หอม แต่ละแห่งยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ตั้งโรงงาน มีเพียงโรงกลั่นเดียว ที่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากได้ขออนุญาตก่อนปี 2555 แต่ถ้ามีการขอหลังจากนั้น สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีน จะไม่อนุญาตให้เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีเขียว ไม่ใช่โรงงานอุตสาหกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินทางมายังบ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 10 ต.บุฝ้าย ได้พบกับนายชัยยา อาทร แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน คณะเจ้าหน้าที่จึงขอเข้าทำการตรวจสอบ พบการดำเนินกิจการแปรรูป และกลั่นไม้หอมกฤษณา โดยมีเตากลั่นจำนวน 30 เตา และจากการเข้าตรวจสอบห้อง ซึ่งมีประ ตูปิดมิดชิดพบชิ้นไม้กฤษณาบรรจุไว้ในลัง และกระสอบจำนวนมากพบเลื่อยโซ่ยนต์ มีความยาวมากกว่า 12 นิ้ว วางไว้ในห้อง
จากการตรวจสอบแล้วปรากฎว่าได้ร่วมกันพิจารณาว่าชิ้นไม้กฤษณาดังกล่าวมีลักษณะที่มิที่ได้มาจากป่า และผู้ครอบครอง ไม่สามารถหาเอกสารแสดงมามาแสดงได้ และบอกว่ารับซื้อมาจากชาวบ้าน และจากการตรวจสอบและชั่งน้ำหนัก ไม้กฤษณาที่มาจากป่าได้จำนวน 400 กรัม ยังไม่เกินการครอบครองไม้ป่าหวงห้าม ภายใต้พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 โดยห้ามมิให้บุคคลมีไว้ครอบครองเกิน 500 กรัม ในส่วนเลื่อยโซ่ยนต์ ไม่มีหลักฐานการขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้แจ้งให้นายชัยยา ทราบว่าต้องถูกจับ พร้อมควบคุมตัวนายชัยยา นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการดำเนินโรงกลั่นไม้หอม โดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ประสานกับผู้อำนวยการอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีน เข้าร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นพบโรงกลั่น 30 เตา ซึ่งเกินกำหนดให้ครัวเรือนที่สามารถทำได้ เพียง 3 เตาในพื้นที่ที่อนุญาต ในขณะที่ตรวจนายชัยยา รับว่าเป็นเจ้าของ และให้การต่อว่าถ้าทางการไม่อนุญาตจะหยุดโรงกลั่นต่อไป
โดยอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีน ได้ทำบันทึก แจ้งข้อหาตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามความผิด พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 2 แสนบาท เพราะเขตพื้นที่ อ.ประ จันตคาม เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับการยกเว้นให้ประกอบอาชีพการตั้งโรงกลั่นไม้หอมได้ ซึ่งทางราชการกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียว และเป็นพื้นที่ที่ต้องไม่มีการกระทำใดๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแว้ดล้อมด้วย
ส่วนไม้กฤษณาทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะนำไม้กฤษณาส่วนหนึ่งไปตรวจสอบว่า เป็นไม้กฤษณาที่ปลูกเองหรือจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่