อส.ลพบุรี แจ้งความหมิ่นหนุ่มอ้างเป็นสายสืบกล่าวหารุมโทรมแฟนสาว

ภูมิภาค
23 ธ.ค. 60
12:29
501
Logo Thai PBS
อส.ลพบุรี แจ้งความหมิ่นหนุ่มอ้างเป็นสายสืบกล่าวหารุมโทรมแฟนสาว
อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดลพบุรีแจ้งความจับหนุ่มอ้างตัวเป็นสายสืบให้กับตำรวจฐานแจ้งความเท็จและนำความอันเป็นเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อหน่วยงาน หลังถูกคู่กรณีกล่าวหาทำร้ายร่างกายและรุมโทรมแฟนสาว

เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดลพบุรีกว่า 30 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเมืองลพบุรี ให้ดำเนินคดีกับชายวัย 40 ปี ที่อ้างตัวเป็นสายสืบให้กับตำรวจหน่วยหนึ่งใน จ.ลพบุรีและแฟนสาว ในข้อหาแจ้งความเท็จและนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์สร้างความเสื่อมเสียให้กับหน่วยงาน หลังจากทั้ง 2 แจ้งความกับตำรวจอ้างถูกกลุ่มอาสาสมัครรักษาดินแดนจับกุมข้อหายาเสพติดแล้วรุมทำร้ายและนำผู้หญิงไปรุมโทรมในวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ติดยาเสพติด

นายประสาน โพธิ์ใหญ่ อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี อ้างว่า เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ชายที่กล่าวหาอาสาสมัครรักษาดินแดน ถูกผู้ใหญ่บ้านในตำบลทะเลชุบศรนำตัวมาส่งมอบให้ที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งได้ทำประวัติและนำเข้าโรงนอนเพราะเป็นเวลาค่ำแล้ว ส่วนแฟนสาวได้บอกให้กลับไปแต่ก็ไม่ยอมกลับ จนมีชายอ้างเป็นตำรวจเข้ามาขอรับตัวแจ้งว่าชายคนนี้เป็นสายสืบของหน่วยแต่ไม่สามารถปล่อยตัวได้เพราะผิดระเบียบ

ชายที่อ้างเป็นตำรวจจึงกลับไป ชายที่อ้างตัวเป็นสายสืบคนนี้จึงถูกส่งเข้าเรือนนอนแต่กลางดึกได้พยายามผูกคอตาย จึงต้องนำมานอนรวมกับอาสาสมัครรักษาดินแดนที่เข้าเวร โดยมีแฟนสาวคอยดูแลจนเช้าของอีกวันจึงปล่อยตัว

กระทั่งวันที่ 13 ธ.ค.ชายคนนี้พร้อมด้วยแฟนสาว ได้เข้าแจ้งความกล่าวหาว่าอาสาสมัครรักษาดินแดนทำร้ายและรุมโทรมแฟนสาว มีการจับกรอกยาเสพติดและออกข่าวในโซลเชียลมีเดีย สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานจึงต้องแจ้งความ และยืนยันว่าในวันเกิดเหตุมีผู้ที่อยู่ภายในศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกว่า 300 คน มีพระและแม่ชี รวมอยู่ด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว พ.ต.อ.ภูบาล ทับจันทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรลพบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ติดยาเสพติดแล้วเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง