"เสก โลโซ" รอดยาก ไบโพลาร์ช่วยไม่ได้

สังคม
5 ม.ค. 61
13:51
634
Logo Thai PBS
"เสก โลโซ" รอดยาก ไบโพลาร์ช่วยไม่ได้
เสก โลโซ กับแนวทางการต่อสู้คดี หากการกระทำมาจากฤทธิ์ยาเสพติด ต้องสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่า ถูกบังคับเสพ หากอ้างว่ามีอาการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ต้องให้แพทย์อธิบายลักษณะโรคอย่างชัดเจน เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้อย่างรัดกุม หากเป็นคำพูดเฉย ๆ คงต่อสู้คดีได้ยาก

วันนี้ (5 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคดีของเสก โลโซ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของศาลจังหวัดมีนบุรี ซึ่งประกอบด้วยคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อสู้ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงาน ส่วนศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง ในหมู่บ้านหรือชุมชน

แม้จุดเริ่มต้นกรณีนี้จะเป็นคดีลหุโทษ คือ คดียิงปืนในวัด แต่หากพบว่าหัวกระสุนปืนไปตกโดนบ้านเรือนผู้คน หรือ รอบวัดมีชุมชน กระสุนซึ่งต้องตกลงพื้นตามธรรมชาติ ถือว่าเป็นการเล็งเห็นผล และหากมีผู้เสียชีวิต จะถือเป็นการพยายามฆ่า แต่หากไม่มีบ้านเรือนผู้คน และไม่ทำให้ผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็ไม่ถือเป็นความผิดต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน


ทั้งนี้ตำรวจ สน.คันนายาว เตรียมแจ้งข้อหาเสก โลโซ เพิ่มหลังผลการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด ด้วยข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 เพิ่มเติม ขณะที่มีคำสั่งคสช. เรื่องการปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัยว่าด้วยกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติด ที่ให้โอกาสผู้ใช้เสพหรือครอบครอง เป็นผู้ป่วย เพื่อให้ได้รับการบำบัดฟื้นฟู แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไม่อยู่ระหว่างการเป็นผู้ต้องหาคดีอื่น หรือ อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในความผิดที่มีโทษจำคุก และไม่มีพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคม และต้องยินยอมเข้ารับการบำบัด


ด้านนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า กรณีของ เสก โลโซ ไม่เข้าเงื่อนไขบำบัดยาเสพติด สมัครใจ หรือละเว้นโทษ ตามประกาศ คสช.108 เพราะมีคดีพกพาวุธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะ และการขัดขืนเจ้าพนักงาน ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว


เสก โลโซ จึงมีแนวทางในการต่อสู้คดี โดยหากเสก โลโซ อ้างว่า การกระทำมาจากฤทธิ์ยาเสพติด ต้องสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่า ถูกบังคับเสพ แต่หากเสก อ้างว่ามีอาการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ ตามการเปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Kendo Photjanasuntorn หรือ ดีเจเคนโด้ เกรียงไกรมาศ พจนสุนทร ระบุว่า #เข้าใจไม่ได้เข้าข้าง ผมพูดเต็มปากว่า พี่เสกป่วยจริง เพราะได้โทรคุยกับทนาย เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา


โดยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า การต่อสู้คดีตัวนี้ไม่มีผล การจะมีผลต้องเป็นคนที่วิกลจริตเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย เด็ก ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ คนที่วิกลจริตหรือผู้ที่ไม่สามารถรู้สำนึก และผู้ที่ถูกทำให้เมา ทั้งเสพสุราหรือของมึนเมาอื่น ๆ ศาลอาจมีคำสั่งลงโทษน้อยกว่าที่กำหนดเท่าไหร่ก็ได้ ส่วนไบโพลาร์ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้อย่างรัดกุม ว่าต้องถึงขนาด ซึ่งแพทย์จะต้องมาอธิบายลักษณะของโรคอย่างชัดเจน หากเป็นคำพูดเฉย ๆ คงต่อสู้คดีได้ยาก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง