พบคดีสวมบัตรประชาชน "ณิชา" เชื่อมโยงกลุ่มหลอกสาวไทยแต่งงาน

อาชญากรรม
15 ม.ค. 61
20:10
1,584
Logo Thai PBS
พบคดีสวมบัตรประชาชน "ณิชา" เชื่อมโยงกลุ่มหลอกสาวไทยแต่งงาน
ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีสวมบัตรประชาชน น.ส.ณิชา เปิดบัญชีมาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้น พบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มหลอกสาวไทยแต่งงาน แต่มีบางประเด็นที่ทำให้ต้องสอบต่อว่าเกี่ยวกับ น.ส.ณิชา หรือไม่ เพราะทำบัตรประชาชนหายหลายรอบ

วันนี้ (15 มี.ค.2561) พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทนเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประชุมร่วมกับตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และตัวแทนธนาคาร 36 แห่ง เพื่อหาแนวทางป้องกันการสวมบัตรประจำตัวประชาชนบุคคลอื่นทำธุรกรรมทางการเงิน และกำหนดมาตรการอื่นๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายฟอกเงิน เบื้องต้น กำหนดหลักเกณฑ์ 7 อย่าง ที่ลูกค้าต้องแสดงประกอบด้วย แสดงชื่อสกุล วัน เดือน ปีเกิด เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียน และที่อยู่ปัจจุบัน อาชีพสถานที่ทำงาน ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ลายมือชื่อผู้ทำธุรกรรม รวมทั้งตรวจสอบทางกายภาพ เช่น รูปร่างหน้าตา ต้องตรงกับหลักฐานที่นำมาแสดง

นายยงศักดิ์ เซี่ยงหลอ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้กำชับสถาบันการเงินให้ตรวจสอบลูกค้าในการเปิดบัญชี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวน น.ส.ปวีณา สิงห์วิบูลย์ ผู้ที่สวมบัตรประจำตัวประชาชน น.ส.ณิชา เปิดบัญชีธนาคารว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง แจ้งข้อหา น.ส.ปวีณา 3 ข้อหา คือข้อหาลักทรัพย์ ข้อหานำบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นตนเอง และข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม หลังผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคารจริง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ น.ส.ณิชา อยู่ใน 2 สถานะ คือสถานะผู้ถูกกล่าวหา กรณีมีชื่อเปิดบัญชีรับโอนเงินจากแก๊งโรแมนซ์สแกม ของ สถานีตำรวจภูธรบ้านตาก และสถานะผู้เสียหาย ซึ่งแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหลักสองว่าบัตรประจำตัวประชาชนหาย และถูกสวมรอยไปเปิดบัญชีธนาคาร ในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) ตำรวจจะแถลงผลการสอบสวน น.ส.ณิชา และผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง