วันนี้ (17 ม.ค.2561) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ แถลงจับกุมเครือข่ายแก๊งโรแมนซ์สแกม กรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ถูกสวมรอยนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร ว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาในคดีสวมบัตรประชาชน น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ พบว่ากลุ่มนี้เป็นขบวนการโรแมนซ์สแกม ไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็เป็นขบวนการหลอกลวงให้โอนเงินเช่นเดียวกัน ซึ่งโรแมนซ์สแกมจะหลอกด้วยการพูดคุยติดต่อกันระหว่างชายชาวต่างชาติกับหญิงไทย สร้างความสัมพันธ์ผ่านบทสนทนาทางอินเตอร์เน็ต และจบลงด้วยการหลอกโอนเงินให้
ตำรวจสืบสวนพบข้อมูลว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการสวมบัตร น.ส.ณิชา จริง โดยมีนายอายัค ไซมอน อีโก้ สัญชาติแคเมอรูน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี พฤติการณ์คือจ้างวานให้หญิงไทยเปิดบัญชี ก่อนจะนำเอทีเอ็มไปกดเงินสด ตำรวจยืนยันว่าพฤติการณ์มีการร่วมกันกระทำผิดชัดเจน และ น.ส.ณิชา ก็เป็นผู้เสียหายถูกสวมบัตรประชาชนจริง
คดีนี้พบมีผู้ต้องหาชาวไทยร่วมกระทำความผิด 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ปวีณา สิงห์วิบูลย์ เปิดบัญชีไป 5 บัญชี ถูกออกหมายจับในคดีร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม น.ส.พรหมพร พงษ์เจริญคุณากร รับเปิดบัญชี 2 บัญชี และ น.ส.เจรติ สายสิน รับเปิดบัญชีไป 3 บัญชี ขณะนี้ถูกอายัดตัวและฝากขังที่เรือนจำจังหวัดนครปฐม สำหรับกลุ่มนี้ตำรวจพบพฤติการณ์กระทำความผิดในหลายพื้นที่โดยกระจายเปิดบัญชีต่างพื้นที่กัน ได้แก่ ย่านห้วยขวาง ลาดพร้าว ภาษีเจริญ หลักสอง และ สภ.นนทบุรี
ขณะที่ น.ส.ณิชา กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยคลี่คลายคดีที่ตัวเอง และครอบครัวพยายามต่อสู้มาโดยตลอด ขณะนี้อยู่ระหว่างปรึกษาทนายในการฟ้องร้องผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งคดีนี้ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญในชีวิต และเป็นกรณีศึกษาในสังคมว่าหากบัตรประชาชนหายแล้วควรทำอย่างไร อยากให้รีบไปแจ้งความกับตำรวจ
หนูเชื่อว่าความจริงต้องปรากฎและได้รับความเป็นธรรม ขอบคุณทุกความช่วยเหลือและกำลังใจจากเพื่อนพี่น้องทุกคน ตอนนี้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะต้องเดินสายพบเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด น.ส.ณิชา ยังคงเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงและต้องรายงานตัวต่อศาลจังหวัดตากอีก 5 ครั้ง รวมทั้งยังเป็นผู้เสียหายที่ถูกแก๊งโรแมนซ์สแกมขโมยบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี และไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด