นายเกียรติชัย เพชรคีรีรัตน์ เป็นชาวเขาเผ่าม้ง ทำสัญญาปลูกอ้อย กับบริษัท แม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด และกลายเป็นหนี้กว่า 41 ล้านบาททุกวันนี้สมาชิกในครอบครัวต้องทำงานหนัก ด้วยการเลี้ยงไก่ เพื่อขายเนื้อ ไปจนถึงลอกเปลือกไม้ทอผ้า เพื่อให้ได้เงินไปใช้หนี้
เช่นเดียวกันกับ นายหยี่ แซ่ม้า ที่ต้องทำอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงหมู ซึ่งกลายเป็นเพียงความหวังเดียว เพื่อให้มีรายได้พอเลี้ยงชีพ และหากมีเงินเหลือเพียงเล็กน้อยก็หวังว่าจะแบ่งเงินจากการขายหมูไปชำระหนี้สินนอกระบบ ที่ติดค้างไว้กับเจ้าหนี้แต่ความหวังนี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เมื่อนายหยี่ ชาวเขาเผ่าม้ง รู้ว่า เค้ากลายเป็นหนี้นอกระบบ กว่า 51 ล้านบาท จากการทำสัญญาปลูกอ้อย
ปัจจุบัน ยังมีชาวบ้านบางราย ต้องปลูกอ้อยเพื่อส่งขายให้บริษัทแห่งนี้ต่อไป เพราะไม่สามารถนำผลผลิตไปขายให้กับบริษัทอื่นได้ เนื่องจากเป็นสัญญาผูกขาด
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านอีกกว่า 50 ครอบครัว ที่ต้องประสบปัญหา กลายเป็นหนี้นอกระบบในรูปแบบไม่ต่างกัน การทำสัญญากับชาวบ้าน ระบุการทำสัญญาเป็นรายบุคคล ตั้งแต่ปี 2550 โดยใช้คำเชิญชวน ว่า " ปลูกอ้อยวันนี้ ขาดทุน ไม่ต้องใช้หนี้ และจะสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย และยาปราบศัตรูพืช" ในลักษณะกู้ยืม และผ่อนค่าใช้จ่ายในภายหลัง
ชาวบ้านส่วนใหญ่ ให้ข้อมูลตรงกันว่า เงื่อนไขที่ให้ชาวบ้านเซ็นสัญญามี 4 ประเภท คือ สัญญาการปลูกอ้อยในระยะเวลา 3 ปี สัญญาค้ำประกันกลุ่ม สัญญายอมรับสภาพหนี้ และสัญญารีไฟแนนซ์ ทำให้ปัจจุบันชาวบ้านถูกฟ้อง 53 ราย และต้องทยอยชดใช้หนี้ บางราย ศาลตัดสินให้ชาวบ้านแพ้คดี ล่าสุด ทีมข่าวติดต่อไปยังบริษัทแม่สอดพลังงานสะอาด เพื่อให้ชี้แจงระบบหนี้สินของชาวบ้าน แต่ยังไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด