ชาวบ้านบอกตรงกันว่า พวกเขาไม่ทราบรายละเอียดของสัญญาซื้อขายอ้อยและเอกสารยอมรับสภาพหนี้ที่ได้เซ็นไปโดยไม่มีรายละเอียด กับชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งเซ็นเอกสารให้เป็นผู้ค้ำประกันทั้งๆ ที่ไม่รู้จักผู้ที่ค้ำให้
นายทิวัตถ์ ดวงกระโทก หนึ่งในเกษตรกรผู้เดือดร้อน บอกว่า สาเหตุที่ชาวบ้านนับ 50 ราย เป็นหนี้บริษัท เกิดจากชาวบ้านทำสัญญาการซื้อ-ขาย โดยตัวแทนบริษัทให้เซ็นเอกสารสัญญา แล้วมีเอกสารรับสภาพหนี้โดยไม่กรอกข้อมูลแนบมาด้วย จึงทำให้ชาวบ้านเซ็นไปโดยรู้ว่าคือเอกสารอะไรบ้าง
ขณะที่ นายจเร วารีวิชัย ตัวแทนผู้เดือดร้อน ใน อ.แม่ระมาด จ.ตาก ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน แต่เป็นในลักษณะการค้ำประกัน และเป็นการหลอกเซ็นสัญญาโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ข้อมูลเนื่องจากไม่สามารถอ่านหนังสือได้ ทำให้ถูกฟ้องไปยังศาลจังหวัดแม่สอดและแพ้คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ โดยทั้ง 5 คนยืนยันว่า ไม่รู้จักกับผู้ที่ค้ำประกันให้แต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.วิชัย สุวรรณประเสริฐ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ระบุว่าขณะนี้มีการประสานฝ่ายปกครองสำรวจเรื่องของชาวบ้านทั้งหมดเพื่อนำมาสู่การคัดกรองและแนวทางการช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป
ขณะที่ บ.แม่สอดพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกพาดพิง ได้ออกเอกสารชี้แจงว่า บัญชีสรุปรายการหนี้สินของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย อ.พบพระ จำนวน 53 ราย โดยคำนวณรวมหนี้สินทั้งหมดเป็นจำนวนราว 51 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 1,300 ล้านบาทแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการเจรจากับเกษตรกรและตกลงร่วมกันได้เรียบร้อยแล้วจำนวน 4 ราย ทำให้ขณะนี้เหลือโจทก์จำนวน 49 ราย และมูลค่าลดลงมาเหลือเพียง 46 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรรายใดมีข้อสงสัยก็ยินดีที่จะให้เกษตรกรเข้ามาตรวจสอบหาเอกสารหลักฐานและเจรจาเพื่อหาข้อยุติต่อไป