วันนี้ (1 ก.พ.2561) ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายชัชวาล ปราบบำรุง อายุ 48 ปี นายทวีชัย วิชาคำ อายุ 41 ปี นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ 52 ปี และนายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 43 ปี เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพยายามก่อให้เกิดระเบิด ได้แก่ กรณีใช้อาวุธปืนขนาด 40 มม. หรือระเบิดเอ็ม 79 ลูกระเบิดยิงชนิดสังหาร (เอชอี) ขนาด 40 มม. และอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. ยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ซึ่งกำลังชุมนุมอยู่ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ส่งผลให้นายสุวรรณ์ แก้วพุฒ ได้รับบาดเจ็บที่ขา สะโพก ซี่โครงด้านขวาและต้นคอ และนายณัฎฐวิช พูนวศินมงคล หรืออาคม แซ่เตียว บาดเจ็บที่ขาซ้ายกับไหล่ขวา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2557 กรณีใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนยิงใส่ประชาชนบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. และร่วมกันใช้อาวุธปืนนั้นยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่ชุมนุมบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ อีก 2 ลูก ทำให้นายยุทธนนท์ สงทอง ผู้ร่วมชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่ต้นขาและหน้าท้อง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2557
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์ เห็นว่าพยานทั้งหมดเป็นเพียงพยานบอกเล่าภายหลังเกิดเหตุการณ์ 3 เหตุการณ์ ไม่ได้รู้เห็นเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นโดยตรง ส่วนพยานปากผู้เสียหายทั้ง 3 คนที่มาเบิกความ แม้จะเป็นพยานอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่เห็นผู้ก่อเหตุและไม่ทราบว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ส่วนคำเบิกความของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถึงจุดที่ยิงอาวุธก็เป็นการคาดเดาและเป็นข้อสันนิษฐานของพนักงานสอบสวนกับผู้เกี่ยวข้องโดยไม่มีพยานหลักฐานใดบ่งเฉพาะยืนยันว่าเป็นการยิงจากจุดดังกล่าว อีกทั้งไม่พบเครื่องยิงระเบิดชนิด M79 ที่ใช้ก่อเหตุทั้ง 3 ครั้ง เพื่อจะนำมาตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝง และไม่พบอาวุธที่ใช้ในกระทำความผิดในบ้านของจำเลยตามที่ตำรวจเคยเบิกความ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง แต่ให้ริบเศษสะเก็ดวัตถุระเบิดไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จำเลยทั้ง 4 คน ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิตและลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2560 เหตุระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่เวทีบิ๊กซี ราชดำริ ปี 2557