ทะลุ 20,000 ชื่อ แคมเปญ “บอยคอต บ.อิตาเลียนไทยฯ” ปมล่าสัตว์ป่า

สังคม
7 ก.พ. 61
14:41
1,505
Logo Thai PBS
ทะลุ 20,000 ชื่อ แคมเปญ “บอยคอต บ.อิตาเลียนไทยฯ” ปมล่าสัตว์ป่า
สังคมออนไลน์ร่วมลงชื่อผ่าน change.org "บอยคอตบริษัทอิตาเลียนไทย" ทะลุ 20,000 คน จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาผิด มาตรฐานเดียวกันกับคดีหาของป่าหรือล่าสัตว์อื่นๆ เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่สังคม

วันนี้ (7 ก.พ.2561) จากกรณี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ถูกควบคุมตัวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมพวกรวม 4 คน ขณะตั้งแคมป์พักภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางซากเสือดำที่ถูกชำแหละและถลกหนัง อาวุธปืนและเครื่องกระสุน อีกจำนวนมาก ขณะที่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เอาผิด 6 ข้อหาหนัก แต่นายเปรมชัยยังให้การปฏิเสธ

นำมาซึ่งการรณรงค์เพื่อลงชื่อผ่านทาง www.change.org ในหัวข้อ "ร่วมกันบอยคอตบริษัทไทยอิตาเลียน คดีล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวรของประธานบริษัท 6 ข้อหา" ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้ว 22,233 คน จากที่ต้องการทั้งหมด 25,000 คน โดยระบุข้อความว่า

"เนื่องจากเป็นคดีใหญ่ ถูกจับได้พร้อมหลักฐานและของกลาง โทษตามกฏหมายมีความผิดอุกฉกรรจ์ การกระทำของนายเปรมชัยและคณะ มิควรถูกมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเพียงอย่างเดียว เพราะนี่เป็นการใช้อำนาจที่มีอิทธิพลเข้าไปล่าสัตว์อย่างอุกอาจย่ามใจ

บริษัทอิตาเลียนไทยควรแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในเรื่องนี้ รวมถึงหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ควรกดดันบอยคอตการดำเนินงานกับบริษัทนี้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่สังคมต่อไป

การรณรงค์นี้ยังช่วยเป็นเสียงสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบ ทำคดีได้อย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ปราศจากแรงกดดันจากอำนาจและอิทธิพลที่เข้ามาคุกคามอีกด้วย"

อีกแคมเปญรณรงค์ในประเด็นใกล้เคียงกันคือ "การดำเนินคดีกับผู้ล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ ต้องโปร่งใสและมีมาตรฐานเดียวกันทุกคดี" ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 12,915 คน โดยระบุข้อความว่า

"กลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปล่าสัตว์ และพบซากของสัตว์ป่า (เสือดำ) บริเวณเต็นท์ที่พัก ในเขตพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การ UNESCO

กลุ่มบุคคลดังกล่าว ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีตำแหน่งใหญ่โตมีหน้ามีตาในสังคม ประชาชนหลายคนจึงกังวลเรื่องความโปร่งใสในการทำคดี ว่าอาจจะไม่มีมาตรฐานเดียวกัน กับคดีหาของป่าหรือล่าสัตว์ ที่เคยเป็นคดีในกระแสสังคมก่อนหน้านี้"

นอกจากนี้ ยังมีอีกกลุ่มที่เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับกลุ่มดังกล่าว ในหัวข้อ  "ดำเนินคดีดังกล่าวให้ถึงที่สุด โดยความชอบธรรม" เช่นเดียวกัน ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 388 คน โดยระบุข้อความท่อนหนึ่งว่า 

"ทางเราจะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้"

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง