เปิดข้อสังเกต "เปรมชัย" ส่อเจตนา...ล่า

สิ่งแวดล้อม
7 ก.พ. 61
19:00
1,438
Logo Thai PBS
เปิดข้อสังเกต "เปรมชัย" ส่อเจตนา...ล่า
ทนายความของนายเปรมชัย บอกว่าไม่ชำนาญเส้นทาง เลยพักค้างแรม และต้องการเข้าไปพักผ่อนไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ ทนายความและคุณเปรมชัย มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธและต่อสู้คดี แต่มันมีข้อสังเกตมากมายว่าคณะของนายเปรมชัย เข้าไปล่าสัตว์

วานนี้ ( 6 ก.พ.) ทนายความของนายเปรมชัย กรรณสูต บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า เพราะความไม่ชำนาญเส้นทาง เลยพักค้างแรมตรงจุดดังกล่าว และความจริงต้องการเข้าไปพักผ่อน ไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ แน่นอนว่า ทนายความและนายเปรมชัย มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธและต่อสู้คดี แต่มันมีข้อสังเกตมากมายว่าคณะของนายเปรมชัย เข้าไปล่าสัตว์

เหตุผลแรก อาวุธปืนที่ยึดได้จากการตรวจค้นคณะของนายเปรมชัย โดยเฉพาะปืน 3 กระบอก เป็นไรเฟิล 1 กระบอก ลูกซอง 2 กระบอก ปืนไรเฟิลรุ่นนี้เป็นปืนที่หายาก ตั้งแต่สมัยสงครามโลก ปัจจุบันราคาสูงมาก เลิกผลิตมาแล้วกว่า 30 ปี ส่วนใหญ่ผู้ที่เก็บสะสมจึงมีแต่นายพรานในเมืองที่มีฐานะ เชื่อกันว่า ในไทยมีอยู่ไม่เกิน 10 กระบอก อานุภาพของมันรุนแรงยิงช้างตัวใหญ่ได้

ขณะที่ปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์ 20 ยี่ห้อผลิตในสเปน ซึ่งในแวดวงผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืนทราบกันดีกว่า กระสุนที่ใช้อานุภาพรุนแรงและสามารถยิงสัตว์ใหญ่ตายได้ง่ายๆ เช่นกัน ไทยพีบีเอสได้สอบถามไปผู้เชี่ยวชาญ ยอมรับว่า เป็นปืนที่หายากและเป็นของสะสมของผู้มีฐานะ

นายฐิติธร บุพพารัมณีย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจอาวุธปืนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "อาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) ยี่ห้อ STEYR-MANNLICHER-M จะหากยาก และปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AGUIRRE & ARANZABAL - MADE IN SPAIN จะหายากมาก ซึ่งอาวุธปืน 2 ชนิดนี้จะหายากมาก ส่วนอาวุธปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Kansas City , US จะหาได้ทั่วไปคนทั่วๆไปจะซื้อไปเฝ้าสวน ไปยิงเล่น ปืนไม่ได้แพง ราคากระสุนไม่ได้แพง คนที่ชอบกีฬายิงปืนมีค่อนข้างเยอะ"

เหตุผลถัดมาที่น่าเชื่อว่ามีเจตนาล่าสัตว์ป่านั้น มาจากสภาพของหนังเสือดำที่ถูกถลกหนังออกมาซึ่งหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่นายพรานจะถลกได้สมบูรณ์แบบนี้หรือไม่ รวมถึงเมื่อถลกหนังออกมาแล้วได้นำเกลือทาไว้เพื่อคงสภาพหนังไว้ด้วย


"ชำนาญฮะ ค่อนข้างรู้เรื่องดี เตรียมอุปกรณ์ไปอย่างดีเช่น เกลือเม็ด เพื่อถนอมหนังไม่ให้เน่า ลักษณะแบบนี้ คนล่าสัตว์ฮะ ไม่ใช่ว่าคนไปแล้วบังเอิญเจอ แล้วตกใจยิง ไม่ใช่ แล้ว ลักษณะของคนที่ชอบเข้าไปในลักษณะแบบนี้ก็จะทำตัวง่ายๆ ทำตัวแบบพรานทั่วไป ไม่ใช่รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นตัวแบบเป็นคนร่ำคนรวยอะไรหรอก" นายวีรวัธน์ ธีรประสาธน์ อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กล่าว

นอกจากนั้นยังมีของกลางอีกอย่าง คือ เนื้อเก้ง ซึ่งไม่ใช่การไปล่าข้างในแต่เป็นการนำเนื้อสดเข้าไป ซึ่งพรานป่าทราบดีว่า เนื้อสดแบบนี้กลิ่นแรงและใช้ล่อสัตว์ได้ดี นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ทำครัวที่น่าเชื่อว่า เตรียมไว้ปรุงอาหารจากสัตว์ที่ล่าได้เพราะคณะของนายเปรมชัย ไม่มีอาหารประเภทอื่นเลยทั้งที่ไปพักแรม และ 1 ในผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงก็เป็นคนทำครัว

ขณะที่ยังมีคำถามว่า เหตุใดคนมีฐานะร่ำรวย ยังมีความนิยมล่าสัตว์เพื่อความบันเทิง มันอาจจะเป็นความเชื่อว่าจะเสริมบารมีได้

นายเอ็ดวิน วีค เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า กล่าวว่า "ผมเห็นว่าบางคนอยากจะเลี้ยงสัตว์ป่า เพื่อสร้างบารมีนะครับ บางคนอีกขั้นหนึ่งไปล่าสัตว์เพื่อสร้างบารมี ผมคิดว่าเป็นการดูถูกกฎหมายไทย คิดว่าตัวเองมีตังค์ ตัวเองมีบารมี ตัวเองจะทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด เพราะดูในเฟซบุ๊กและในทวิตเตอร์เห็นว่าไปกันหลายรอบแล้ว 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ครั้งแรก เชื่อว่าไม่เคารพกฎหมายทั้งสิ้น"  

นอกจากนี้ สถานที่พักแรมของคณะของนายเปรมชัย ห่างจากจุดที่เขาอนุญาตให้กางเต็นท์ 5 กม. ซึ่งเรียกว่า "ห้วยปะชิ" โดยห้วยปะชิคือ ด่านสัตว์ที่อพยพจากทุ่งใหญ่ไปห้วยขาแข้ง ซึ่งจะมีสัตว์ป่าชุกชุมและสังเกตได้ชัดคือ คณะของนายเปรมชัยเข้าป่าเพียงวันเดียว ก็สามารถล่าเสือดำได้ เพราะ 1 ในผู้ต้องหาเป็นนายพรานที่เรียกกันว่า "พรานแกะ" เป็นผู้พาไปยังจุดดังกล่าว

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของคนขับรถของนายเปรมชัย ซึ่งเป็น 1 ใน ผู้ต้องหา ที่เคยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2559 พร้อมเขียนเล่าไว้ว่า ไปเที่ยวกับนายมาที่ จ.กาญจนบุรี" โดยใต้ภาพมีผู้มาแสดงว่าเห็นพร้อมถามว่า "มาทำอะไร" และคนสนิทของนายเปรมชัยบอกว่า "มาเที่ยวป่าล่าสัตว์"

ล่าสุดกับการเปิดเผยของ "นิตยสารผู้จัดการ" เคยไปสัมภาษณ์นายเปรมชัย เมื่อ 27 ปีก่อน โดยพบว่า เก้าอี้สีเขียวในห้องทำงานของนายเปรมชัย ที่ บ.อิตาเลียนไทย ปูด้วยหนังเสือโคร่ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง