คาดตรุษจีน-วาเลนไทน์ เงินสะพัดเป็นประวัติการณ์

เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.2561) ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน และเทศกาลวาเลนไทน์ปีนี้ โดยระบุว่า จะมีเงินสะพัดเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้ง 2 เทศกาล 60,682 ล้านบาท แบ่งเป็นเทศกาลตรุษจีน 56,860 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.52 จากปีก่อน

สำหรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่ามากจากการทำบุญ, ซื้อของเซ่นไหว้,ให้แต๊ะเอีย และท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยมูลค่าการใช้จ่ายพบว่าส่วนใหญ่จะมีการซื้อของเซ่นไหว้ 4,155 บาท, ทำบุญ 2,048 บาท, ซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภค 2,714 บาท, ให้แต๊ะเอีย 4,008 บาท, ซื้อเสื้อผ้ารองเท้า 1,446 บาท, ท่องเที่ยว 25,489 บาท, ซื้อเครื่องประดับและทองคำ 18,153 บาท

ส่วนสถานที่ที่ประชาชนอยากไปสักการะขอพรมากที่สุด คือศาลเจ้าพ่อเสือ, วัดเล่งเน่ยยี่, วัดไตรมิตร, วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดบำเพ็ญจีนพรต กทม. โดยพรที่ต้องการ คืออยากร่ำรวยเงินทอง, ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ต้องการ, อยากให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน และมีความรัก ความสามัคคีกัน เป็นต้น

สำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.3 ไม่มีการวางแผน ส่วนอีก ร้อยละ 23.7 วางแผนท่องเที่ยว ซึ่งในจำนวนนี้ ร้อยละ 85 เที่ยวในประเทศ โดยเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวและไปกับครอบครัว ขณะที่อีกร้อยละ 15 ไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เที่ยวจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้

ส่วนเทศกาลวาเลนไทน์ คาดว่าจะมีการใช้จ่าย 3,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 3.10 โดยเงินที่สะพัดจนสูงสุดในประวัติการณ์ครั้งนี้ เชื่อว่ามาจากเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวได้ดีจนคนเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ค่าใช้จ่ายเป็นรายสินค้าพบว่ามีการใช้จ่ายในการซื้อดอกไม้เฉลี่ย 350 บาทต่อคน, เดินห้าง 1,240 บาทต่อคน, ซื้อของขวัญ 1,123 บาท, ท่องเที่ยวในประเทศ 4,440 บาท, ซื้อช็อกโกแลต 344 บาท, ไปทานข้าวนอกบ้าน 1,307 บาท เป็นต้น

นอกจากเงินสะพัดรวมจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ยังพบว่าค่าใช้จ่ายเฉพาะซื้อของมอบให้คู่รักเฉลี่ยต่อคนยังสูงสุดด้วย อยู่ที่ 1,490.35 บาทต่อคน จากปีที่แล้ว เฉลี่ยที่คนละ 1,334.29 บาทต่อคน