คพ.คุมเข้มลดฝุ่นละออง PM 2.5 หวั่นกระทบสุขภาพปชช.

สิ่งแวดล้อม
15 ก.พ. 61
10:30
852
Logo Thai PBS
คพ.คุมเข้มลดฝุ่นละออง PM 2.5 หวั่นกระทบสุขภาพปชช.
คพ. ระบุ ค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของไทย-สหรัฐเปรียบเทียบกันไม่ได้ เนื่องจากดัชนีคุณภาพอากาศแตกต่างกัน พร้อมวางมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศ ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายธารา บัวคําศรี ผอ.ประจําประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก โดยกล่าวถึงปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นใน กทม. ขณะนี้ ว่าค่าเฉลี่ย PM 2.5 ที่บางนา ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้อยู่ที่ 61.87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อนําเอาความเข้มข้นฝุ่นพิษ ดังกล่าวไปหาดัชนีคุณภาพอากาศ ตามวิธีการของสหรัฐอเมริกา ผลคืออยู่ในระดับสีแดง ซึ่งแสดงว่าคุณภาพอากาศมีอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นวิกฤตด้านสุขภาพของประชาชน ถ้ารัฐไม่มีประสิทธิภาพ ประชาชนจะลงมือติดตาม ตรวจสอบและรายงานคุณภาพอากาศกันเอง


กรมควบคุมมลพิษ ชี้แจงว่า การกําหนดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ ของแต่ละประเทศที่ใช้แถบสีในการรายงาน จะมีความสัมพันธ์กับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศที่แต่ละประเทศกําหนด ซึ่งการกําหนดค่ามาตรฐานจะพิจารณากําหนดจากข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาของประเทศ สภาพเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งค่ามาตรฐานระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ยังมีความแตกต่างกัน โดยประเทศไทยกำหนดค่ามาตรฐานฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ีค่า มาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของสหรัฐอเมริกาไม่เกิน 35 มคก./ลบ.ม.ประกอบกับระดับการแบ่งช่วงค่าและความหมายของ สีที่ใช้ระหว่างดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทยและของสหรัฐอเมริกามีความแตกต่างกันเช่นกัน ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้


นางสุณี ระบุว่า หลังจากพบค่า PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรงุเทพมหานคร กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กองบังคับการตํารวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สํานักงานสิ่งแวดล้อม ภาค 6 (นนทบุรี) และ ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อกําหนดและดําเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 รวมถึงมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยการเฝ้าติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์ผ่านช่องทางต่างๆ การให้ความรู้ สร้างความเข้าใจกับสื่อมวลชนและประชาชน ควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะโดยเพิ่มจุด ตรวจจับรถควันดําและบังคับใช้กฎหมาย การเข้มงวดการตรวจสภาพรถโดยสาร ตรวจสอบตรวจจับการจัดซื้อรถโดยสาร ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้้อเพลิง


ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ได้ปฏิบัติตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยมุ่งเน้นการลดมลพิษจากการจราจร การลดฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง การลดฝุ่นละอองจากการเผาและกิจการต่างๆ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเพิ่มความถี่ในการทํําความสะอาดถนน และการขอความร่วมมือจากภาคประชาชนดููแล รักษารถยนต์ของตนเองให้อยู่ในสภาพดี ช่วยลดการนํายานพาหนะส่วนบุคคลเข้าในเขตเมือง ให้ใช้้รถร่วมกัน "ทางเดียวกันไปด้วยกัน" การใช้รถขนส่งสาธารณะ รวมท้ังการงดการเผาขยะ ใบไม้ กิ่งไม้

นางสุณี กล่าวต่อว่า ด้านมาตรการดูแลสุขภาพ ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นละอองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นหรือใช้ผ้าชุบน้ำ เลี่ยงการออกกําลังกายหรือทํางานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ลดการใช้รถยนต์และการเผาขยะ


ทั้งนี้ได้ประสานให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังและรายงาน 4 โรคสําคัญ ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง ที่อาจเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก และให้เจ้าหน้าที่ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงในวันที่มีค่าฝุ่นสูง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสามารถใช้ชีวิตประจําวันได้อย่างปกติ เนื่องจากปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่ที่มีค่าเกินมาตรฐานไม่ได้มีค่าสูง ตลอดเวลา และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จากการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ และทางแฟนเพจเฟซบุ๊กกรมควบคุมมลพิษ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง