วันนี้ (26 ก.พ.2561) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร หนึ่งในคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ตัวเองตัดสินใจลงสมัครเข้ารับการสรรหาในตำแหน่งเลขาธิการ กกต. โดยเตรียมการมาสักพักแล้ว เนื่องจากต้องการเป็นตัวกลางประสานงานช่วงการทำหน้าที่ของ กกต.ใหม่ 7 คน ในการเตรียมการเลือกตั้งในอนาคตให้มีความราบรื่นเรียบร้อย ทั้งการเลือกตั้งท้องถิ่นที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ และการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ย้ำไม่มีการล็อบบี้ กกต.อีก 4 คน และให้กระบวนการเป็นไปอย่างยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ขออย่ามองเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบ
นายสมชัย ระบุว่า ได้แจ้งต่อประธาน กกต.ทราบเมื่อไม่นานมานี้ หากได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ กกต. ตัวเองจะลาออกจากตำแหน่ง กกต. ภายในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เพื่อทำหน้าที่ใหม่ในวันที่ 1 มิ.ย. ส่วนการลงมติเลือกเลขาธิการ กกต.คนใหม่ จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ค.2561 ซึ่งจะขอลาการประชุม
สำหรับช่วงเวลาของการสรรหากกต. 7 คน ครั้งที่ 2 จะคาบเกี่ยวช่วงการประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น และ กกต.ชุดปัจจุบันอาจต้องจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น หากนายสมชัยได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ กกต. โดยให้องค์ประชุมจะเหลือ 4 คน
ขณะที่วันที่ 7 สิงหาคมนี้ นายบุญส่ง น้อยโสภณ จะเกษียณอายุ 70 ปีครบวาระตามกฎหมาย ส่วนนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. จะเกษียณในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หาก กกต. เหลือ 3 คนถือว่าไม่ครบองค์ประชุม และไม่สามารถลงมติตัดสินใจอะไรได้ นอกจาก คสช.จะมีคำสั่งมาตรา 44 ให้ กกต. ที่ครบวาระทำหน้าที่ต่ออายุจนกว่าจะได้ กกต.ใหม่ หรืออาจใช้มาตรา 17 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ให้ประธานศาลปกครองสูงสุดและประธานศาลฎีกา แต่งตั้ง กกต. ให้ครบ 5 คนเพื่อทำหน้าที่ชั่วคราวได้