วันนี้ (6 ก.พ.2561) นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบระหว่างวันที่ 6 - 9 มี.ค.2561) เนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบน คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (6 มี.ค. 2561) ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อนในช่วงระหว่างวันที่ 6 - 9 มี.ค.2561 โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกทั่วทุกภาคของประเทศ นั้น
กรมชลประทาน ได้ให้โครงการชลประทานทุกแห่ง เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ที่อาจจะได้รับผลกระทบ ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน ด้วยการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากขึ้นได้ พร้อมทั้ง ให้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำให้มีความพร้อมใช้งาน สามารถปฏิบัติงานช่วยเหลือบรรเทาภัยที่เกิดจากน้ำได้อย่างทันท่วงที
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปัจจุบัน (6 มี.ค. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 54,651 ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 72 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มากกว่าปี 2560 รวม 7,880 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ 30,730 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59 (ปี 2560 มีน้ำใช้การได้ 22,891 ล้าน ลบ.ม.) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก มีปริมาณน้ำรวมกัน 16,575 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำมากกว่าปี 2560 รวม 3,306 ล้าน ลบ.ม. และมีปริมาณน้ำใช้การได้ 9,879 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 (ปี 2560 มีน้ำใช้การได้ 6,573 ล้าน ลบ.ม.)
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ตรวจสอบระบบ อาคารชลประทาน และเครื่องจักร เครื่องมือ ให้สามารถพร้อมรับสถานการณ์น้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิดด้วย