วันนี้ (13 มี.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพชร นริพทะพันธุ์ บุตรชายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า "การต่อสู้ของนักการเมืองนั้น..ดีต่อประชาชน เพราะนั่นคือกระบวนการคัดสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด และเน้นว่า เป็นความจำเป็น เป็นธรรมชาติ และจะเป็นภูมิคุ้มกัน" คล้ายจะบอกว่าข้อความที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มีเหตุและมีผลที่ต้องถกเถียง-แลกเปลี่ยนกัน
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค กล่าวย้ำแล้วว่า ไม่ใช่ความขัดแย้ง เป็นการแสดงความเห็น หลังจากที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยื่นข้อเสนอต่อพรรค สอดคล้องกับรายงานข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เสนอพิมพ์เขียว เพื่อแก้ความขัดแย้งภายในพรรค และความขัดแย้งในสังคมไทย
และน่าจะเป็นตามข้อมูลที่แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคได้กำหนดผู้เหมาะสมที่จะขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่แล้ว 4 คน ประกอบไปด้วย คุณหญิงสุดารัตน์, นายจาตุรนต์ ฉายแสง, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่มีข่าวว่า นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล คือผู้ที่จะเข้ามาเคลียร์ปัญหาภายใน
ทั้งนี้ จึงมีข้อสังเกตว่านี่แค่บทเริ่มต้นการคัดสรรผู้นำพรรคเพื่อไทยคนใหม่เท่านั้น และเกมนี้น่าจะมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อคนรุ่นใหม่ออกมาพูด แทนที่จะเป็นนายพิชัย นริพทะพันธุ์ แต่ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ หรือคู่ชิงอีก 3 คน นอกจากจะผ่าด่านสมาชิก หรืออดีต ส.ส.แล้ว ยังต้องผ่านการไตร่ตรองของแกนนำกลุ่ม-ก๊วนภายในพรรคอีก
อย่างกลุ่มวังบัวบาน, วังน้ำเย็น, บ้านบางบอน, บ้านปิ่นประภาคม ซึ่งทั้งหมดจะมีประธานภาค กำกับดูแลร่วมกำหนดท่าทีกันอยู่ด้วย อย่างภาคเหนือ จะเป็นนายสามารถ แก้วมีชัย ส่วนภาคอีสาน เป็นนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ภาคกลาง เป็นนายวิทยา บุรณศิริ, ภาคใต้ เป็นนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และกรุงเทพมหานคร น่าจะเป็นนายวิชาญ มีนชัยนันท์
แต่จะผ่านสักกี่ด่านก็แล้วแต่ แต่ถ้าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ขึ้นมาจริงๆ ด่านที่เรียกว่าหิน น่าจะเป็นเสียงสนับสนุนจากคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ หลายคนอาจบอกว่าท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ข้อมูลเชิงลึก ว่ากันว่ายังคงมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย