สผผ.ตรวจย่านพญาไท หลังคอนโดฯ ผุดแน่นบั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชน

สังคม
5 เม.ย. 61
11:46
643
Logo Thai PBS
สผผ.ตรวจย่านพญาไท หลังคอนโดฯ ผุดแน่นบั่นทอนคุณภาพชีวิตประชาชน
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีชมรมอนุรักษ์พญาไทร้องเรียนกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคารสูงจำนวนมากในเขตพื้นที่สีน้ำตาล ก่อปัญหาด้านคุณภาพชีวิต ทั้งแออัด จราจรติดขัด มลภาวะ และความปลอดภัยในชีวิต

วันนี้ (5 เม.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียน หลังชมรมอนุรักษ์พญาไทร้องเรียนกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหตุปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคารสูงจำนวนมากในเขตพื้นที่สีน้ำตาล ก่อปัญหาด้านคุณภาพชีวิต ทั้งแออัด จราจรติดขัด มลภาวะ และความปลอดภัยในชีวิต

นายรักษเกชา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกลุ่มประชาชน "ชมรมอนุรักษ์พญาไท" ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินถึงผลกระทบที่ได้รับจากการอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียมและอาคารสูงจำนวนมากบริเวณซอยพหลโยธิน 5 - 11 และในชุมชนใกล้เคียง โดยมิได้คำนึงถึงผังเมืองและลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ที่จำกัด ซึ่งเขตพญาไทนั้นได้ถูกกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่สีน้ำตาล คือเขตที่มีที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก การมีอาคารสูงเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่ง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ประสบกับสภาวะความแออัด ก่อให้เกิดปัญหาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม อาทิ การจราจรติดขัด การขาดแคลนที่จอดรถ การทำผิดกฎจราจร การตัดต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อปรับปรุงถนน และปัญหามลภาวะต่างๆ เช่น ควันพิษ ขยะล้น น้ำเสีย และน้ำท่วมขังติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน นอกจากนั้น ในระหว่างการก่อสร้างอาคาร จะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ขับเข้าออกในพื้นที่ตลอดเวลา ทำให้บ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนเสียหาย

นายรักษเกชา กล่าวต่อว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขตพญาไท, กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาร่วมประชุมชี้แจงเพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายทั้งกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย ด้านระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของพื้นที่เขตพญาไท โดยเบื้องต้นยังได้ดำเนินการตรวจสอบความกว้างของถนนและฟุตบาธในซอยพหลโยธิน 11 และยังเป็นโอกาสที่จะได้รับฟังสภาพปัญหาจากประชาชนในพื้นที่จริงอีกด้วย

"การประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย ที่หวังจะช่วยเยียวยาความทุกข์ร้อนต่างๆ ของประชาชน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินได้เน้นย้ำเสมอว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการก่อสร้างโครงการต่างๆ อย่างรอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชน บางอย่างเป็นประโยชน์ของประชาชนจำนวนหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมอำนวยความสะดวก หรือมองข้ามความเดือดร้อนของประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่เขาอาจจะได้รับผลกระทบจากโครงการเหล่านี้ด้วย ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่าผู้ตรวจการแผ่นดินจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน" นายรักษเกชา กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง