วันนี้( 1 พ.ค. 2561 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า (ชุดเหยี่ยวดง) นำนายถิรเดช ปาละสุวรรณ นายนุวรรต ลีลาพตะ นายนาวี ช้างภิรมย์ และพวก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. นำโดย พตต.คณพล อุนะพำนัก รตอ.ประสงค์ แจ่มใส รตท.จรัญ รอดประสิทธิ์ ได้ร่วมกันขอหมายค้นต่อศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 10 ซอยสุขสวัสดิ์ 35 แยก 7 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ หลังจากสืบทราบว่ามีผู้ได้รับอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทงู มีพฤติกรรมลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีนายพศุตม์พงศ์ ชัยวงศ์ ซึ่งพักอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แสดงตัวเป็นเจ้าของและเป็นผู้นำตรวจสอบ โดยได้นำเอกสารการได้รับอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง (สป.15) และหนังสือกำกับการจำหน่ายมาแสดง
จากการตรวจสอบพบสัตว์ประเภทงูจำนวนหลายรายการ ดังนี้ งูที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองตามแบบ สป.15 จำนวน 2 ชนิด คืองูเหลือมและงู หลาม รวม 9 ตัว 1 ซาก จำนวนตรงกับหลักฐาน งูที่มีหลักฐานว่าซื้อมาจากการเพาะพันธุ์ (มีหนังสือกำกับการจำหน่าย) จำนวน 2 ชนิด คือ งูเหลือมและงูหลาม รวม 7 ตัว จำนวนตรงกับหลักฐาน
ภาพ:ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ
ภาพ:ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีงูที่อ้างว่าได้มาจากการผสมพันธุ์กันเองในกรงเลี้ยงจำนวน 1 ชนิด คือ งูหลาม รวม 10 ตัว ส่วนงูต่างประเทศ จำนวน 7 ชนิด ได้แก่งูอนาคอนดา งูคิงสเนก งูไวท์สเนก และอื่น ๆ รวม 22 ตัว รวมงูทั้งหมด 39 ตัว 1 ซาก มูลค่ารวมประมาณ 1 ล้านบาท
น่าเป็นห่วงว่างูอนาคอนดา ที่พบครั้งนี้เป็นพ่อแม่พันธุ์จำนวน 4 ตัวมีขนาดยาวไม่ต่ำกว่า 2-3 เมตรอายุประมาณ 3-4 ปี ส่วนตัวลูกยาวประมาณ 1 เมตร อายุน่าจะหลายเดือนแล้วแต่พบมีลายแปลกๆ ซึ่งคนเพาะเลี้ยงบอกว่าซื้อพ่อแม่มาจากจตุจักร และจะเพาะเลี้ยงไปขายต่างประเทศ มีการผสมข้ามสายพันธุ์ในงูบางชนิดเช่น งูเหลือม งูหลามทำให้มีลวดลายแปลกไปเป็นลายหินอ่อนเพื่อเพิ่มมูลค่า
ภาพ:ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ
ภาพ:ชุดเหยี่ยวดง กรมอุทยานแห่งชาติฯ
แหล่งข่าวยอมรับว่า ขณะนี้กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่ายังไม่ครอบคลุมการจับ และยึดงูสายพันธุ์ต่างประเทศ ทำให้การเพาะเลี้ยงและขาย จึงอาจยังไม่เข้าข่ายความผิด ซึ่งทางกรมอุท ยานฯได้เสนอแก้กฎหมายให้งูและสัตว์ต่างประเทศในบัญชีไซเตสทั้งหมด ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเพิ่มเติม เช่นเดียวกณีของช้างแอฟริกา
ทำให้เป็นปัญหาว่าหากมีการเลี้ยงงูอนาคอนดาจนโตเต็มวัย และไม่อยากเลี้ยง แอบถูกนำไปปล่อยในธรรมชาติจะเกิดความเสียหาย และอันตรายกับคน เพราะงูอนาคอนดามีความดุร้าย ขนาดโตตัวจะยาวนับ 10 เมตร
ทั้งนี้ทางชุดปฏิบัติการกำลังให้ทางฝ่ายกฎหมายวิเคราะห์ว่างูที่ผ่านการผสมข้ามสายพันธุ์แล้วจนสูญเสียความเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่นกรณีงูเหลือม และงูหลาม จะเข้าข่ายผิดกฎหมายครอบครองและเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่ระบุไว้ตรงตามใบอนุญาตหรือไม่ จึงได้สั่งอายัดไว้ในสถานที่ดังกล่าวก่อน ห้ามนำเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายจ่ายโอน จนกว่าจะทำการตรวจสอบโดยละเอียดเสร็จเรียบร้อย หากพบว่าไม่ถูกต้อง จะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป