กรณีที่พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตามกลไกการปกป้องคุ้มครองสัตว์ เรื่องแนวทางการแก้ปัญหาลิงในพื้นที่วิกฤต 12 จังหวัด ซึ่งคณะอนุกรรมการได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาวิจัยในมิติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องโดยมีแนวคิดให้ศึกษาใช้พื้นที่เกาะห่างไกลชุมชนรองรับ และสร้างนิคมลิง
วันนี้ (15 พ.ค.2561) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวการฟื้นฟูระบบนิเวศอ่าวมาหยา เกาะพีพี ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไม่เห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์กับแนวคิดว่าจะย้ายลิงไปอยู่บนเกาะ โดยองค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญของระบบเกาะอย่างมาก หากจะนำเอาลิงไปปล่อยเกาะในเขตอุทยานแห่งชาติ ถือเป็นแนวทางที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะต้องคำนึงถึงสมดุลของระบบนิเวศพื้นที่ ทั้งนี้หากจะแก้ปัญหาก็ควรจะสร้างเกาะลิงขึ้นมาและจัดรูปแบบการจัดการใหม่
ปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
อุทยานฯระบุเจ้าจ๋อ สัตว์ก่อกวนอันดับ 1
ขณะที่นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช ระบุว่าจากการสำรวจความเห็นของชุมชนทั่วประเทศกว่า 7,000 คนพบว่าสัตว์อันดับแรกที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญมากที่สุดคือลิง พบมากถึง 183 แห่งใน 53 จังหวัด และมีพื้นที่วิกฤตหนักถึงขั้นเดือดร้อนรำคาญ 12 จังหวัด คือ จ.ลพบุรี กระบี่ ชลบุรี ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ภูเก็ต มุกดาหาร สตูล สระบุรี อำนาจเจริญ และเขตบางขุนเทียน กทม. ระดับปานกลาง 11 จังหวัด เช่น ราชบุรี สระแก้ว ชัยนาท ร้อยเอ็ด อุดรธานี และระดับต่ำ 30 จังหวัด
โดยที่ผ่านมากรมอุทยานฯมีมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการเกิดของประชากรลิงด้วยการทำหมัน แต่ยังทำได้ไม่มากนัก เนื่องจากมีจำนวนเพิ่มขึนอย่างรวดเร็ว มีการประเมินว่าน่าจะเกิน 1 แสนตัวโดยส่วนใหญ่เป็นลิงแสมที่มีปัญหามากสุด 34,608 ตัว ส่วนสัตว์อันดับที่ 2 คือช้าง 166 แห่งที่มีปัญหาเชิงพื้นที่ อันดับ 3 หมูป่า 82 พื้นที่
การจัดการย้ายลิงในแต่ละพื้นที่จะต้องดูถึงสาเหตุของปัญหา เพราะจากการสำรวจกรมอุทยานฯแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือลิงถูกรุกล้ำพื้นที่หรือถูกคุกคาม บางพื้นที่ที่อยู่อาศัยของลิงถูกล้อมด้วยชุมชน และพื้นที่อยู่อาศัยของลิงถูกเปลี่ยนเป็นชุมชน เช่น ลิงลพบุรี ซึ่งการแก้แต่ละพื้นที่จะต้องดูว่าจะแก้จากคน หรือจากลิง ไม่สามารถทำรูปแบบเดียวกันทั้งหมด และต้องดูความพร้อมเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะการย้ายไปบนเกาะ ยังเป็นแค่แนวคิดที่จะนำมาพูดคุยถึงความเป็นไปได้เท่านั้น
คงไม่จับลิงไปปล่อยเกาะ แต่ต้องควบคุมปัญหาเชิงพื้นที่ เช่น ถ้าคนขัดแย้งจากลิงเพราะประชากรมากไปก็อาจต้องคุมประชากร ดังนั้นความขัดแย้งแต่ละแห่งจะมีการนำเสนอภายใต้โมเดลที่ สนช.กรมอุทยาน และถ้าจะย้ายคือเคสลิงตึก เช่น กรณีของลิงลพบุรี ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยชัดเจน เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม