ประเมิน 4 ปี คสช.เศรษฐกิจกระจุกตัว

การเมือง
21 พ.ค. 61
19:18
1,379
Logo Thai PBS
ประเมิน 4 ปี คสช.เศรษฐกิจกระจุกตัว
"ไพบูลย์ บุนนาค" วิเคราะห์ 4 ปีเศรษฐกิจยุครัฐบาล คสช.ผลประโยชน์ยังกระจุกตัว เม็ดเงินเหลื่อมล้ำ พุ่งเป้าอัตราเติบโตร้อยละ 5 จากการลงทุนโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ชี้คาดหวังเลือกตั้งปี 2562 ตัวแปรสำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน

วันนี้ (22 พ.ค.2561) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สำรวจความคิดเห็นตัวแทนจากกลุ่มต่างๆเนื่องในโอกาส 4 ปีที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายใต้ภารนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี คาดหวังเลือกตั้งปีหน้า ช่วยกระตุ้น "เศรษฐกิจ"และการลงทุน

นายไพบูลย์ บุนนาค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับการปฏิบัติงาน ธนาคารมิตซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารงานถือว่าใช้ได้ หากดูจากตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) มีการริเริ่มสิ่งใหม่ ภาพรวมทำได้ดี แต่ยังมีเรื่องความเหลื่อมล้ำที่ยังไม่ดีเท่าไหร่ เศรษฐกิจเติบโตขึ้นจริง แต่ว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์ยังกระจุกตัวอยู่ จึงมีบางคนอาจจะเห็นว่าเศรษฐกิจไม่เห็นดีเลย เพราะว่าเงินยังไม่ถึงมือเขา ซึ่งโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลคือจะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเติบโตแบบกระจายมากกว่ากระจุกตัว


สำหรับปัจจัยเสี่ยงอาจจะมาจากเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น ส่วนปัจจัยด้านความมั่นคงของยุโรปและสหรัฐฯ ยังดูน่ากลัวน้อยกว่าแต่ก่อน ส่วนการลงทุนจากต่างประเทศ คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อปีที่แล้วยังมีความไม่ชัดเจน และในปีนี้น่าจะชัดเจนขึ้น คาดว่าน่าจะเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น เพราะเหมือนอั้นมาจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา


ขณะที่การส่งออกดีขึ้น เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งมีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้สูงขึ้น ในแง่ภาพรวมเศรษฐกิจคงจะดีขึ้น หากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเติบโตที่ร้อยละ 4 ถือว่าใช้ได้ การที่หลายสำนักคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตมากกว่าร้อยละ 4 จึงเป็นไปได้สูง และต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตเกินร้อยละ 5 ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากไม่เห็นตัวเลขการเติบโตที่ระดับร้อยละ 5-7 มานานแล้ว แต่ปัจจัยที่อาจทำให้ทุกอย่างพลิกขึ้นมาคือระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (อีอีซี) และการซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งออกเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

 

 

ชี้เลือกตั้งปีหน้าช่วยกระตุ้น "เศรษฐกิจ"


นายไพบูลย์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวทำได้ดี ซึ่งที่ผ่านมา การท่องเที่ยวยังเป็นพระเอกอยู่ คิดว่าน่าจะไปได้ต่อ แต่จะทำอย่างไรให้กระจายไปยังเมืองที่ไม่ใช่เป็นเมืองเอก ซึ่งการที่รัฐบาลออกมาตรการท่องเที่ยวเมืองรองถือว่ามาถูกทางแล้ว คือทำอย่างไรไม่ให้กระจุกที่เมืองใหญ่ ให้กระจายไปที่เมืองเล็กๆ บ้าง ส่วนนักท่องเที่ยวจีนน่าจะยังมาประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของไทยที่จีนทะเลาะกับญี่ปุ่น ขณะที่กับเกาหลีใต้เองยังคงดูตึงเครียด และไต้หวันกับจีนไม่ถูกกันในช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนเลยหันมาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเองยังดูสงบอยู่

 


ส่วนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ ในช่วงปีแรกๆ ที่รัฐบาล คสช.เข้ามาเหมือนหยุดชะงักไป ซึ่งในช่วง 1-2 ปีแรกเป็นช่วงของการประมูล และกำหนดเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) แต่ในปัจจุบันพบว่าโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา, รถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าสายสีแดง มีการก่อสร้างคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 30-40 ส่งผลให้มีการจ้างงาน ซื้อของ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี หากมีการเลือกตั้งในปีหน้า จะยิ่งส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทย เบื้องต้น มองว่าหากจะมีการเลื่อนเลือกตั้งก็คงไม่นาน เนื่องจากมีแรงกดดันอยู่ ประเมินน่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้าแน่นอน ขึ้นอยู่ว่าจะเป็นช่วงต้นปีหรือปลายปีเท่านั้น

 

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

"ศศิน"ถูกใจคสช.เบรกเขื่อนแม่วงก์-ไม่โดนใจ "ปลดล็อก"อีไอเอ

 4 ปี คสช. "สมหวัง-ผิดหวัง" อะไร? 

นักวิชาการ ชี้ คสช.สอบตก-ล้มเหลวทุกด้าน

รวมทัพ 5 ครั้ง "คนอยากเลือกตั้ง” ทวง คสช.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง