วันนี้ (27 มิ.ย.2561) พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ โฆษกกรมสุขภาพจิตและรองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับเหตุการณ์นักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอน 13 คน ติดอยู่ในถ้ำหลวง จ.เชียงราย ว่า มีความห่วงใยทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพราะว่าขาดทั้งน้ำและอาหาร ส่วนเรื่องทางใจ มองว่าการที่ติดอยู่ด้วยกันหลายคน ทำให้ยังสามารถช่วยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันได้ และหากได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว ไม่อยากให้มองว่าออกมาแล้ว จะมีปัญหาสุขภาพจิต ควรมองในเรื่องของความปลอดภัยและสุขภาพกายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
สำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านจิตใจ ควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกของพวกเขาว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว ได้รับการดูแลทั้งกายและจิตใจอย่างเหมาะสม แต่ถ้าเหตุการณ์ผ่านไปแล้วเป็นเดือน เด็กๆ ยังมีอาการฝันร้าย หวาดผวา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หรือมีปัญหาทางอารมณ์ ปรับตัวไม่ได้ กลุ่มนี้ควรได้รับการรักษา
พญ.วิมลรัตน์ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่รอคอยอยู่ด้านนอก เป็นกลุ่มที่น่าเห็นใจ เกิดหลากหลายความรู้สึกจากความที่ไม่รู้ ยังไม่ได้คำตอบ ซึ่งเป็นช่วงที่ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้น จะมีความคิดหลายๆ อย่างเข้ามาว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร มีความรู้สึกโกรธ เสียใจ โทษตัวเอง สลับกับความคิดที่มองว่าอาจหมดหวัง ซึ่งความคิดพวกนี้จะสลับไปสลับมาจนกว่าจะได้รับคำตอบ
ทั้งนี้ เรื่องนี้คนรอบข้างจะช่วยได้มาก เพราะว่าพ่อแม่ผู้ปกครองมีความเครียดในระดับหนึ่งอยู่แล้ว อาจขาดน้ำ ขาดอาหารไม่ต่างจากคนที่อยู่ข้างใน จึงควรได้รับการดูแลในเรื่องของน้ำและอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ ระหว่างวันอาจมีกิจกรรมอย่างอื่นทำบ้าง มีการพูดคุยกับคนอื่น ให้รู้ว่าไม่ได้รู้สึกแย่อยู่คนเดียว รวมทั้งได้รับกำลังใจจากหลายๆ คน ก็จะช่วยได้เป็นอย่างดี
ส่วนการทำพิธีหรือร่างทรงต่างๆ หากอะไรที่ทำแล้วไม่เกิดอันตราย เป็นไปในลักษณะที่ให้กำลังใจก็ไม่เป็นไร เพราะแต่ละคนย่อมมีความเชื่อความศรัทธาที่ต่างกัน ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่หากความเชื่อนั้นจะต้องทำให้เสียทรัพย์สิน หรือต้องมีความเจ็บทางร่างกายเพิ่มเติม ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
ด้าน น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต สั่งการให้ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1 และโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ ส่งทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท ลงพื้นที่ปฏิบัติการให้การดูแลด้านจิตใจแก่ญาติของนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนร่วมกับทีมของพื้นที่ อ.แม่สาย แล้ว
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จิตใจของญาติอยู่ในสภาวะวิตกกังวล เป็นห่วงเกี่ยวกับความปลอดภัย และมุ่งที่จะติดต่อกับผู้ที่พลัดหลงในถ้ำให้ได้ เฝ้ารออย่างมีความหวัง ซึ่งอาจจะทำให้นอนไม่หลับ อ่อนเพลียได้ และขอให้ครอบครัวและญาติช่วยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน
นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการติดตามเฝ้าระวังสภาวะสุขภาพจิตของครอบครัวและญาติที่ไปเฝ้ารอที่บริเวณหน้าถ้ำ ทุกคนมีความหวังที่จะพบเด็กๆ โดยทั้งหมดอยู่ในความดูแลของทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อทีมเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือทั้ง 13 คนออกมาได้แล้ว ก็จะร่วมให้การดูแลจิตใจร่วมกับทีมแพทย์ฝ่ายกายด้วย โดยเฉพาะสภาวะความเครียด หลังเผชิญเหตุการณ์