ต่างชาติประเมิน "ทีมหมูป่า" อาจติดถ้ำนานจากฝนตกหนัก

สังคม
4 ก.ค. 61
07:06
927
Logo Thai PBS
ต่างชาติประเมิน "ทีมหมูป่า" อาจติดถ้ำนานจากฝนตกหนัก
ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าการนำตัวทั้ง 13 คนออกจากถ้ำอาจจะใช้เวลานานกว่าที่คิด ด้วยปัจจัยหลายประการ ขณะที่สื่อต่างประเทศชั้นนำหลายสำนักยังคงเกาะติดการรายงานปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย

วันนี้ (4 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สื่อตะวันตกต่างนำเสนอประเด็นอุปสรรคในการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน 12 คนและครูผู้ฝึกสอนออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน หลังจากที่พยากรณ์อากาศคาดว่า จะมีฝนตกหนักในพื้นที่อีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งจะกระทบต่อปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าและอาจทำให้ทั้งหมดต้องอยู่ภายในถ้ำไปอีกหลายเดือน เพื่อรอให้ระดับน้ำลดลงจนปลอดภัย


สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นจากสหรัฐอเมริการายงานถึงข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสภาพจิตใจของกลุ่มเยาวชนในระยะยาว โดยใช้บทสัมภาษณ์นักจิตวิทยาจากสหรัฐฯ มาประกอบ ซึ่งระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่การติดอยู่ในที่แคบและมืดเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความหวาดกลัว สับสน วิตกกังวลและรู้สึกสิ้นหวังรวมถึงไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ผลกระทบทางจิตใจก็อาจแตกต่างกันออกไปในเด็กและผู้ใหญ่

ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีจากอังกฤษรายงานความคืบหน้าหลังหน่วยแพทย์และพยาบาลพร้อมด้วยนักประดาน้ำเข้าไปถึงภายในถ้ำ

บริเวณที่ทั้ง 13 คนปักหลักอยู่ เพื่อส่งเสบียงอาหารชุดแรกสำหรับดำรงชีพเป็นเวลา 10 วัน พร้อมทั้งระบุว่า ขณะนี้ทีมกู้ภัยต้องตัดสินใจว่าจะใช้วิธีใดในการนำตัวทั้ง 13 คนออกมาจากถ้ำให้ได้อย่างปลอดภัย


รายงานของบีบีซีสอดคล้องกับสื่อตะวันตกอีกหลายสำนักที่รายงานคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่กองทัพไทยเพื่อยืนยันข้อมูลนี้

โดยเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ขณะนี้กำลังเตรียมการสำหรับส่งเสบียงอาหารเข้าไปภายในเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต พร้อมกับฝึกสอนให้ทั้ง 13 คน ดำน้ำให้เป็นโดยเร็ว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสูบน้ำออกมาให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด

เบนเรย์เมแนนท์ส นักกู้ภัยจากเนเธอร์แลนด์ที่เป็นหนึ่งในทีมกู้ภัยนานาชาติ ระบุว่า ฝนที่กำลังจะตกในอีก 3 วัน รวมทั้งเงื่อนไขเรื่องน้ำภายในถ้ำ ทำให้การเข้าไปภายในหรือออกมาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

ขณะที่ปีเตอร์วูล์ฟ ผู้อำนวยการสมาคมดำน้ำในถ้ำออสเตรเลีย ระบุว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ การให้ทั้ง 13 คน อยู่ในจุดที่พบในขณะนี้ และเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปช่วยปรับสภาพแวดล้อมในจุดนั้นให้เหมาะกับการอยู่ได้อย่างสะดวก แห้ง ปลอดภัย มีอาหาร น้ำดื่มและอากาศที่เพียงพอ เนื่องจากทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

นอกจากนี้ข้อมูลของนักดำน้ำยังระบุตรงกันว่า จุดที่ทั้งหมดอยู่นั้น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส มีน้ำไหลมาตามผนังถ้ำ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เด็กทั้งหมดจะไม่ประสบกับภาวะขาดน้ำหรืออยู่ในสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไป


ส่วนปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือ ทั้ง 13 คนว่ายน้ำหรือดำน้ำไม่เป็น ประเด็นนี้เอดด์ โซเรนสัน จากหน่วยกู้ภัยและค้นหาใต้น้ำในถ้ำระหว่างประเทศ เตือนว่า เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงอย่างมากในการนำตัวออกมาจากถ้ำที่มีกระแสน้ำเชี่ยวและวิสัยทัศน์ในการมองเห็นที่เกือบจะเป็นศูนย์ ซึ่งเท่ากับการเอาชีวิตทั้งของเจ้าหน้าที่และเด็กมาเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ก็คือ การรู้ตำแหน่งที่ทั้งหมดอยู่ การมีอาหารรับประทาน มีน้ำดื่ม มีความอบอุ่นและแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อให้รอคอยโอกาสในการกลับออกมาสู่โลกภายนอกได้อีกครั้ง

ผู้อำนวยการสมาคมดำน้ำในถ้ำออสเตรเลียระบุอีกว่า ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ เงื่อนไขอื่นๆ ตลอดจนความยาวของถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนแล้ว นั่นหมายความว่า อาจจะมีเพียงไม่กี่คนในโลกที่สามารถส่งเสบียงอาหารเข้าไปให้กับเด็กๆ ได้ 


ด้านบิลล์ไวท์เฮาส์ รองประธานสภากู้ภัยในถ้ำของอังกฤษ มองว่า เด็กทั้งหมดอยู่ในจุดที่ลึกประมาณ 800 เมตร ถึง 1 กิโลเมตรจากด้านบนสุดของถ้ำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบว่ามีทางเข้าไปด้านในถ้ำจากด้านบน ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งที่เป็นโจทก์ยากสำหรับความพยายามที่จะขุดเจาะจากด้านบนลงไปช่วยเหลือ

แต่อย่างไรก็ตามอีกเรื่องหนึ่งที่สื่อต่างชาติรายงานคือความพยายามของเจ้าหน้าที่ทั้งจากไทยและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดจนถึงขณะนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่จากกองทัพไทยมากกว่า 1,000 นาย เจ้าหน้าที่พลเรือนและอาสาสมัครหลายร้อยคน รวมทั้งทีมนักกู้ภัยจาก 7 ประเทศ ซึ่งทุกคนต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า จะไม่ละความพยายามและจะทำภารกิจอย่างเต็มที่เพื่อนำทีมหมูป่าทั้งหมดออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัยให้ได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง