แผนลำเลียง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน จะใช้แผนทั้งทางบกและทางอากาศ การช่วยเหลือทางอากาศเฮลิคอปเตอร์ เป็นอีก 1 แผนที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เตรียมไว้

วันนี้ (8 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนลำเลียงเยาวชนและโค้ชทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง -ขุนน้ำนางนอน นอกจากจะใช้แผนทั้งทางบกแล้วยังมีแผนทางอากาศ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ เป็นอีกแผนที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เตรียมไว้

ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ บริเวณทางขึ้นดอยผาหมี ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ มีเฮลิคอปเตอร์ เตรียมพร้อมทั้งหมด 4 ลำ และยังมีที่ลานกีฬาบ้านจ้องอีก 1 จุด โดยตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักบินตรวจสอบความเรียบร้อยของเฮเลคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำ เพื่อเตรียมความพร้อมตลอดเวลา

ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ถือเป็นจุดสำคัญที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เตรียมไว้ เป็นแผน 2 หากสภาพร่างกายของเยาวชนและโค้ช อ่อนแอหรือถึงขั้นวิกฤต

ขั้นตอนการลำเลียงผู้ประสบเหตุนั้น ทีมแพทย์จะลำเลียงพวกเขาขึ้นรถพยาบาลโดยใช้เส้นทางจากปากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จากเส้นทางดอยผาหมีโดยจะนำทีมหมูป่า ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ใกล้กับศูนย์พัฒนาพัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ บริเวณนี้ใช้ระยะเวลา 7 - 10 นาที นอกจากนี้ ยังมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ อีกจุด คือ บริเวณที่ลานกีฬาบ้านจ้อง ซึ่งมีทีมแพทย์เตรียมลำเลียงเยาวชนและโค้ชไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยทั้ง 2 เส้นทางจะใช้เวลาประมาณ 7-10 นาที

เมื่อนำทีมหมู่ป่าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เสร็จแล้ว จากนั้นเฮลิคอปเตอร์จะบินมาที่ กองบิน 416 ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลไม่ถึง 1 กม.ใช้เวลา 15 นาที สำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจะใช้รถพยาบาลทั้งหมด 13 คัน ตามจำนวนผู้สูญหาย โดยมีแพทย์ประจำอยู่ในรถพยาบาลทั้ง 13 คัน

หากผู้ประสบเหตุรายใดมีอาการวิกฤติ จะใช้เฮลิคอปเตอร์นำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลที่มีขีดความสามารถในการรักษา เช่น โรงพยาบาลบางแห่งในกรุงเทพฯ สำหรับแผน 2 หากท้องฟ้าสภาพอากาศปิด ก็จะใช้การลำเลียงทั้ง