ครอบครัวนักศึกษาสาวไทยสุดเศร้า เสียชีวิตปริศนาในสหรัฐฯ

จากกรณี น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ (แอ๋ม) อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาโท ด้านกฎหมาย ในมหาวิทยาลัยรัฐบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และ น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ เสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา โดยเจ้าหน้าที่พบศพ สภาพถูกแทงตามร่างกาย เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังเพื่อนของนักศึกษาไทย 2 คน แจ้งว่าทั้งคู่ขาดการติดต่อนานกว่า 72 ชั่วโมง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.61 นายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ สจ.ปทุมธานี พี่ชายของ น.ส.กรกมล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Weerasak Leenavarat ว่า “สำหรับน้องแอ๋ม...ในความรู้สึกของพี่ เมื่อยามเป็นเด็ก หนูเป็นเทพธิดาองค์น้อยๆ ของพ่อ พอโตขึ้นมาก็เป็นนางฟ้าของครอบครัว เป็นคนจิตใจดี ร่าเริงแจ่มใส ฉลาด เก่ง มีความกล้า และเชื่อมั่นในตัวเองสูง อยากเรียนกฏหมายที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ทำได้ น้องกับพ่อวางแผนกันไว้ว่า หนูเรียนจบแล้วจะขอไปเรียนเนติบัณฑิตไทยก็จบภายใน 1 ปี แล้วขอไปเรียนต่อปริญญาโทกฏหมายยังต่างประเทศ ก็สำเร็จมา 1 ใบ เดินทางต่อไปเพื่อเรียนต่ออีกใบ อีกเพียงแค่ 7 เดือน จะกลับมาสอบเป็นผู้พิพากษาสนามจิ๋ว...แต่สุดท้ายความตายที่พวกเราไม่เคยคาดคิดก็มาพรากหนูไปจากพวกเรา ทุกคนเสียใจ และเป็นทุกข์มาก ตลอดระยะเวลาที่หนูอยู่บนโลกนี้ 24 ปี 9 เดือน ช่างสั้นเหลือเกิน แต่คงถึงเวลาที่นางฟ้าต้องกลับสวรรค์ ไปเถอะนางฟ้าของพวกเรา #แก้วตาดวงใจของครอบครัว...น้องแอ๋ม"

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามนายวีระศักดิ์ โดยเปิดเผยว่า ทราบว่าน้องสาวเสียชีวิตพร้อมกับรูมเมท แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด รอผลการชันสูตรศพจากตำรวจ เบื้องต้นยืนยันว่าเป็นน้องสาวของตัวเองจริง เนื่องจากญาติที่อยู่ในสหรัฐฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ส่วนน้องสาวนั้นเป็นลูกคนเล็ก เพิ่งไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตพ่อและครอบครัวเสียใจมาก โดยอยู่ระหว่างการประสานนำศพกลับไทย

ส่วนกรณีที่หลายสำนักข่าวระบุว่าก่อนการเสียชีวิตน้องสาวตัวเองได้โทรศัพท์พูดคุยว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยนั้น นายวีระศักดิ์ ยืนยันว่า ปกติน้องสาวพูดคุยกับพี่ชายและเพื่อนเป็นประจำ ไม่ได้ทราบถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเองแต่อย่างใด นอกจากนี้ น้องสาวเป็นคนที่ตั้งใจเรียน ไม่มีประวัติการขาดเรียน หรือขาดงาน ส่วนเพื่อนที่เสียชีวิตอีกคน ทางบ้านรู้จักและเคยมาพบกับพ่อที่บ้าน แต่น้องสาวไม่ได้เล่าถึงความสัมพันธ์

เช้าวันเสาร์ น้องสาวมีนัดกับเพื่อนไปซื้อของในการทำงานพาร์ทไทม์ แต่ไม่ได้ไปพบเพื่อนและไม่ได้ไปทำงานในเย็นวันนั้น ทำให้รู้สึกถึงความผิดปกติ ส่วนโซนที่พักเน้นความปลอดภัยอยู่แล้ว เพราะเขาเคยเรียนในบอสตันมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี ขณะนี้ทางบ้านอยู่ด้วยกันทุกคน รอการรายงานข่าวสาเหตุการเสียชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม 2 นักศึกษาสาวไทย ถูกฆาตกรรมในอะพาร์ตเมนท์กรุงวอชิงตัน