กรณีการเสียชีวิตของเด็กหญิงน้ำเพชร อุดมกัน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จากอาการปวดท้องและอาเจียนเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ สอบสวนข้อเท็จจริงจากบันทึกการรักษาของเด็กหญิงน้ำเพชร หลังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางโฉลงรับมาดูแล
นพ.นนท์ จินดาเวช รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบพบว่า เด็กหญิงน้ำเพชรเข้ามารักษาตัวด้วยอาการปวดท้องและอาเจียน แรกรับสัญญาณชีพปกติ หายใจเร็วนิดหน่อย อัตราการหายใจ 24 ครั้งต่อนาที จึงรักษาด้วยการให้ยาแก้ปวดท้อง แก้อาเจียน และเกลือแร่แบบชงดื่ม เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ
ส่วนข้อสังเกตเรื่องการประเมินอาการผู้ป่วยเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนั้น นพ.อภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางโฉลง รับเด็กเข้ารับการรักษาเวลาประมาณ 14.00 น. โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลบางพลี ยืนยันว่าดูแลตลอดรักษา แต่ยอมรับว่าพยาบาลที่รักษาเป็นพยาบาลใหม่อาจประเมินอาการผิดพลาด เนื่องจากกรณีนี้ถือว่าวิกฤตฉุกเฉินส่งต่อได้เลยทันที
ขณะที่ ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามระเบียบหากแพทย์ประเมินแล้วว่าผู้ป่วยมีอาการฉุกเฉินวิกฤตสามารถส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันที โดยไม่ต้องรอเซ็นเอกสารใดๆ กรณีนี้จึงเห็นว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดมากกว่า
ขณะที่ครอบครัวของเด็กหญิงน้ำเพชร เข้าแจ้งความที่ สภ.บางพลี เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดังกล่าว โดยเชื่อว่าวินิจฉัยอาการผิดพลาดจนทำให้เด็กหญิงน้ำเพชรเสียชีวิต และจะไม่ทำพิธีฌาปนกิจศพลูกสาวหากยังไม่มีความชัดเจนและไม่ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำพยานและรวบรวมพยานหลักฐานบางส่วน แต่ยังคงต้องรอผลชันสูตรจากโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ก่อน หากเชื่อมโยงว่ามีผู้ใดกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป