อุทยานฯ สั่งเก็บหลักฐาน "ล่าหมีขอ" ป่าไทรโยค

วันนี้ (8 ต.ค.2561) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่ากรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี จับกุมแก๊งออฟโรด พร้อมของกลางอาวุธปืน และซากอุ้งตีนหมีขอ 4 ซาก กลางป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยครวม 11 คน โดยหนึ่งในผู้ต้องหามีตำแหน่งเป็นปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย ขณะนี้สั่งการให้นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทร โยค ดำเนินการทางคดีอย่างรัดกุมที่สุด และการเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานอย่างละเอียดให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยคดีล่าเสือดำที่ป่าทุ่งใหญ่ เนื่องจากทราบว่าผู้ต้องหามีการอ้างว่าซื้อซากสัตว์ป่ามาจากชาวบ้าน

การกล่าวอ้างว่าซื้อซากหมีขอมาจากชาวบ้าน มันย้อนแย้งกับข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ได้รับรายงาน ป่าไทรโยคไม่มีหมู่บ้านชาวบ้านเลยระหว่างทาง และการไปทำบุญ แต่กลับพกพาอาวุธสงครามจำนวนมาก เข้าพื้นที่อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกเกินไป ทั้งนี้ได้รับรายงานว่าทางทีมงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สอบถามมา และกำชับให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุดหากผิดจริง 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ยืนยันแก๊งออฟโรดไม่ได้รับอนุญาตเข้าพื้นที่

นายธัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังยืนยันว่าทีมที่เข้าไปและถูกจับกุมไม่มีการขออนุญาต หรือได้รับอนุญาตใดๆจากเจ้าหน้าที่ไทรโยค ตามคำกล่าวอ้าง ทั้งนี้กรมอุทยานฯยอมรับว่าที่ผ่านมาหลายครั้งเมื่อจับกุมผู้ต้องหาได้จะถูกอ้างลักษณะนี้ ประกอบกับอำนาจในการขอตรวจค้นก็ทำยาก เพราะจะเป็นการละ เมิดหรือไม่

จะมีการหารือกับนิติกรกรมอุทยาน เพื่อหาช่องกฎหมายว่าเจ้าหน้าที่อุทยานสามารถเข้าตรวจค้นกรณีเจอรถหรือกลุ่มคนต้องสงสัยได้เลยหรือไม่ เพราะอย่างกรณีออฟโรด ขนอาวุธปืนเข้าไปจำนวนมาก แต่ไม่สามารถรู้จนกว่าจะเจอและตรวจค้น 

มีรายงานว่าทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ทีมงานหน้าห้องติดต่อมาที่นายพนัชกร เพื่อสอบถามการจับกุมที่มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทย อยู่ในกลุ่มที่ถูกจับกุมด้วย และกำชับว่าหากมีมูลความผิดจริง ต้องถูกไล่ออกจากราชการ

ลงพื้นที่เก็บหลักฐานล่าหมีขอ

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.ทีมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้ลงพื้นที่หาพยานหลักฐานคดีปลัด-พวกล่าหมีขอ ซึ่งหากจากสำนักงานสวนป่าไทรโยค 2 ประมาณ 10 กิโลเมตร จะพบจุดที่ เจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ถูกกล่าวหา 11 คน (รวมเด็กและเยาวชนอีก 4 คน ) เพื่อตรวจพยานหลักฐานที่ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งไว้

และอีกจุดที่คาดว่าจะมีพยานหลักฐาน คือสำนักสงฆ์เหมืองเต่าดำ ซึ่งห่างออกไป กว่า 35 กม. คาดใช้เวลา 6 ชั่วโมง เพราะเป็นทางชันและเป็นหิน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แบ่งชุดเป็น 2 ชุด คือชุดแรกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคทั้งหมด เพื่อหาจุดเป้าหมาย และชุดที่ 2 คือ อุทยานแห่งชาติไทรโยค และพิสูจน์หลักฐาน เพื่อให้การตรวจสอบครบถ้วนที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

"พักราชการ" ปลัดอำเภอล่าหมีขอ

คุมตัวปลัดอำเภอพร้อมพวกสอบ "ล่าหมีขอ"