ยุติสอบสวน "คดีเกาะเต่า" นักท่องเที่ยวอังกฤษอ้างถูกข่มขืน

สังคม
16 ต.ค. 61
10:57
1,383
Logo Thai PBS
ยุติสอบสวน "คดีเกาะเต่า" นักท่องเที่ยวอังกฤษอ้างถูกข่มขืน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำทีมแถลงยุติสืบสวนคดีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษอ้างถูกข่มขืนและชิงทรัพย์ ระบุ ไม่พบหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ขณะที่คำให้การไม่เชื่อมโยงหลักฐาน และไม่พบคราบอสุจิบนเสื้อผู้เสียหาย

จากกรณีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษร้องต่อสื่อว่าถูกวางยา แล้วข่มขืน บริเวณเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 25 – 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

ล่าสุด วันนี้ (16 ต.ค.2561) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล  รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที หลังได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์และสื่อสังคมออนไลน์ โดยได้ตรวจสอบหลักฐานในทุกมิติ ทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานบุคคล พร้อมรายงานไปยังสถานกงสุลอังกฤษอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีโดยผู้เสียหายไม่ต้องร้องทุกข์ แต่เมื่อลงไปตรวจสอบพบว่า ไม่มีพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีการเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง

หลังการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ประสานสถานกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อไปสอบสวนที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งพนักงานสอบสวนพบว่า ผู้เสียหายไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเกิดเหตุที่จุดใด ส่วนผู้กระทำผิด ผู้เสียหายให้ข้อมูลเพียงว่าเป็นผู้ชาย มีหนวดเครา ผิวดำ แต่ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่พยานวัตถุจากผู้เสียหาย คือ เสื้อที่อ้างว่าได้สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ส่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

เสื้อตัวดังกล่าวเป็นยืดคอกลม แขนสั้น สีกรมท่า ผลการตรวจพิสูจน์ไม่พบคราบอสุจิที่เสื้อของกลาง แต่ตรวจพบดีเอ็นเอของคน 2 คน เป็นของผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน ซึ่งดีเอ็นเอนี้อาจปรากฏได้จากการจับตัวผู้ใส่

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ไม่มีการดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จกับนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ แต่เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน พนักงานสอบสวนจึงดำเนินการสอบสวน เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าเกิดเหตุจริงหรือไม่

จ่อดำเนินคดีเพจ CSI LA เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน

สำหรับสถิติการแจ้งความคดีข่มขืนแต่ไม่เกิดเหตุเมื่อปีที่ผ่านมา พบ 7 ครั้ง เช่น บนเกาะสมุย เกาะเต่า เป็นต้น เมื่อมีการแจ้งความเท็จเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งหากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะขึ้นแบล็กลิตส์ห้ามเข้าประเทศ

ส่วนเพจ CSI LA หลังตรวจสอบพบว่า เจ้าของเพจอยู่ต่างประเทศ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนในประเทศที่มีการแชร์ข่าวที่บิดเบือน เป็นเท็จ หากตรวจสอบพบจำดำเนินคดีทันที หากมีการแชร์เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐานอย่างเต็มที่แล้ว เนื่องจากกรณีเป็นคนต่างชาติ และเป็นเหตุที่ประชาชนให้ความสนใจ ตำรวจจึงพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อปกป้องชื่อเสียงของประเทศ

วันนี้ทุกประเด็นครบหมดแล้ว ขั้นโรงพัก กองพิสูจน์หลักฐาน หรือส่งพนักงานสอบสวนเราเองไปสอบสวนที่ประเทศอังกฤษ ผมเชื่อว่าวันนี้ความจริงได้ปรากฏแล้วว่าอะไรคืออะไร สำหรับเรื่องนี้คงยุติไว้เพียงเท่านี้ แต่หากมีพยานหลักฐานใหม่ เราก็ยินดีที่จะดำเนินการต่อ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง