แม้กฎหมายการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์จะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังคงมีความกังวลใจในขั้นตอนการพิจารณาของ สนช. ว่าอาจไม่ทันตามกรอบเวลาที่วางไว้ เบื้องต้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดใน 5 ทางเลือก
การพิจารณานำกัญชามาใช้ทางการแพทย์เพื่อให้ทันตามกรอบเวลา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้รวมกันเสนอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษต่อที่ประชุม สนช. เพื่อแก้ไขให้ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 คือ กัญชาและพืชกระท่อม สามารถนำไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสามารถนำไปใช้ในการรักษาภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ได้
โดยได้นำเสนอร่างแก้ไขให้กับทางเลขาธิการวุฒิสภาปฎิบัติหน้าที่ เลขาธิการ สนช. เพื่อนำร่างกฎหมายรับฟังความเห็นผ่านทางเว็ปไซต์ของ สนช. ใช้เวลา 15 วัน และจะเปิดเวทีเพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชน ซึ่งน่าจะจัดขึ้นภายในเดือน ต.ค.นี้ จากผลรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ประมาณ 100,000 คน พบว่าร้อยละ 98.9 เห็นด้วย ให้นำสารสกัดกัญชามาใช้ทางการแพทย์
เบื้องต้นทางออกสำหรับการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ มี 5 ทางเลือก คือ
1.รอกระบวนการของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งกรณีนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะประกาศบังคับใช้ทันหรือไม่
2.กรณีที่ สนช.รวมกันเสนอร่างกฎหมาย และในเดือนนี้น่าจะมีสัมมนาใหญ่ในการรับฟังความคิดเห็น
3.เสนอให้ใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ปลดล็อกกัญชา ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ภายในวันนี้ (19 ต.ค.)
4.คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ใช้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการลงนามเปลี่ยนแปลงกัญชา จากสารเสพติดประเภทที่ 5 เป็นประเภท 2
และแนวทางที่ 5 ให้ออกกฎหมายใหม่ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ซึ่งแนวทางนี้คาดว่าต้องใช้เวลา