“ไอติม” พ้นค่ายทหาร พร้อมลงการเมือง

การเมือง
1 พ.ย. 61
11:04
1,665
Logo Thai PBS
“ไอติม” พ้นค่ายทหาร พร้อมลงการเมือง
“ไอติม” ประกาศพร้อมลงสมัคร ส.ส. และเตรียมเสนอนโยบายความเท่าเทียมทางเพศ –ปรับระบบการเกณฑ์ทหาร

หลัง "ไอติม" หรือนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ปลดประจำการ ก้าวออกจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) เปิดใจกับไทยพีบีเอสออนไลน์ถึงอนาคตทางการเมือง เริ่มตั้งแต่ภารกิจภายในพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น้าของ "ไอติม" อยู่ระหว่างชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค รวมถึงอนาคตทางการเมืองในสนามเลือกตั้ง ปี 2562

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

 

สิ่งที่ "ไอติม" จะทำเป็นอย่างแรกคืออะไร ? "ไอติม" ตอบว่า คือการเข้าสู่การเมืองเต็มตัว เพราะมีสถานะเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยภารกิจแรกคือลงคะแนนหยั่งเสียงหัวหน้าพรรค เป็นสิ่งที่ตื่นเต้นและสำคัญ เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่ให้สิทธิ์สมาชิกเลือกหัวหน้า

อันนี้บ่งบอกที่สุดว่าเป็นประชาธิปัตย์ มองว่าเป็นจุดเด่น แต่ไม่อยากให้ทำแค่พรรคเดียว อยากให้พรรคอื่นทำด้วย เพราะอยากให้เกิดการปฏิรูป

เปิดตัวเลือดใหม่ประชาธิปัตย์

ทั้งนี้โครงการที่จะเดินหน้านับจากนี้ คือ 1.การทำนโยบาย เพราะส่วนตัวพยายามเก็บเกี่ยวความรู้ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งการเรียนรู้จากเอกชนและโซเชียลเอ็นเตอร์ไพรซ์ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน การศึกษา และนโยบายภาพรวม

2. การเปิดตัวคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ หลังเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเสร็จ ซึ่งคนรุ่นใหม่ไม่ใช่แค่อายุน้อย แต่ต้องมีบทบาทชัดเจน เพราะถือว่าเป็นคนมีส่วนได้-ส่วนเสียกับนโยบายโดยตรง

เรื่องที่จะทำ เช่นเรื่องแอลจีบีที เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ เป็นสิทธิพื้นฐาน ผมไม่เห็นด้วยกับพ.ร.บ.คู่ชีวิต ดีที่สุดคือการแก้กฎหมาย อยากเปลี่ยนเป็นเรื่องคนสองคนที่รักกันแต่งงานกันได้

นอกจากนี้ "ไอติม" ยังเตรียมเสนอเรื่องการปรับ "ระบบการเกณฑ์ทหาร" หลังจากมีประสบการณ์ตรงจากการฝึกทหารและได้เรียนรู้ชีวิตของทหารในหลายระดับ  ซึ่งจะขอเปิดเผยรายละเอียดด้วยตนเองเร็วๆ นี้

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

 

ความแตกต่างกันของผู้คนในค่ายทหารสอนอะไร ? "ไอติม" บอกว่าได้เรียนรู้การใช้ชีวิต 3 ข้อสำคัญ ได้แก่ 1.เรียนรู้กองทัพมากขึ้นทั้งข้อดี-ข้อเสีย รวมถึงการเกณฑ์ทหาร เพราะมีโอกาสฟังมุมมองนายทหารหลายระดับ และเห็นชีวิตคนที่หลากหลาย

2. ได้เรียนรู้สังคมไทย-เพื่อนคนไทยมากขึ้น ไม่มีโอกาสดีกว่านี้แล้วที่ได้จะได้กินข้าวหม้อเดียวกัน อาบน้ำอ่างเดียวกันกับเพื่อนเป็นร้อย

เห็นง่ายเลยคือเด็ก 2 คนต่างกัน แม้มีศักยภาพเท่ากัน คนหนึ่งอาจไปได้ไกลกว่า คนหนึ่งไปได้ไม่ไกล เพราะปัจจัยที่คุมไม่ได้ 

3. ได้เรียนรู้ตนเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองโชคดี  และจากนี้จะต้องสร้างสมดุลชีวิต ที่ผ่านมาเคยใช้เวลากับงาน กระทั่งเข้ามาในค่ายจึงรู้ว่าสิ่งแรกที่คิดถึงไม่ใช่เรื่องงาน แต่กลับเสียดายเวลาที่จะได้กินข้าวกับพ่อแม่ ดังนั้นจากนี้ไปต้องมีสมดุลเรื่องนี้

พร้อมลง ส.ส.

"ไอติม" ตั้งใจลงสมัคร ส.ส. เลือกตั้งปีหน้า ? " ผมเป็นสมาชิกพรรค เจตจำนงคืออยากจะเป็นผู้สมัครของพรรค ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการและคณะกรรมการสรรหาว่าผมเหมาะไหม ถ้าเหมาะ จะเหมาะกับ ส.ส.เขต หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องว่ากันไป"

เมื่อถามถึงความพร้อมทางเมือง "ไอติม" เล่าความตั้งใจตั้งแต่เด็ก เริ่มจากความสงสัยเกี่ยวกับบุคคลทางการเมืองตั้งแต่อายุ 9-10 ปี เช่น เมื่อเจอป้ายหาเสียงก็เกิดคำถามว่าคนเหล่านี้คือใคร

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

ที่มา เฟซบุ๊กพริษฐ์ วัชรสินธุ

 

กระทั่งได้ทุนเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ พบว่าเป็นประเทศที่การปกครองไม่ต่างจากไทย แต่มีความเหลื่อมล้ำต่างกัน เช่น คนอังกฤษเลือกเรียน เลือกรักษาพยาบาลใกล้บ้าน แต่ของไทยไม่ใช่ เพราะยังมีความเหลื่อมล้ำ จึงอยากกับมาพัฒนาบ้านเมืองตัวเอง

ผมเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์และการเมือง เลือกวิเคราะห์นโยบาย และทำงานพาร์ทไทม์ในองค์กรที่ศึกษาการคอร์รัปชัน เพราะจะได้นำความรู้มาพัฒนาบ้านเมือง ผมพร้อมเสนอตัวเป็นผู้แทนฯ

ส่วนแรงบันดาลใจจาก "อภิสิทธิ์" ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดของประเทศไทย กลับได้คำตอบจาก "ไอติม" ผิดคาด! เพราะทั้งคู่ไม่ได้สนิทกันแต่แรก

"ไอติม" เล่าว่า ครอบครัวเวชชาชีวะ มีญาติ 2 คนที่อยู่ในวงการเมือง คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ แกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อตอนอายุ 16 ปี จึงมีโอกาสได้ฝึกงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และได้เห็นการทำงานของนายอภิสิทธิ์ ความประทับใจจึงอยู่ที่การทำงาน

ผมไม้ได้นับถือเขาเพราะสายเลือด แต่เห็นเขามีความรู้ความสามารถ เขารู้ลึกและรู้กว้าง 

แหละนี่คือการสัมภาษณ์ขั้นต้นของ "ไอติม" หลังประกาศความพร้อมเข้าสู่สนามการเมือง และเชื่อว่าคนไทยจะได้เห็นชีวิตทางการเมืองของเข้าในเร็ววันนี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง